“บอสพอล” เคลียร์ปม ดิไอคอนกรุ๊ป ยกธงขาว ย้ำรับผิดชอบจนบาทสุดท้าย

14 ต.ค. 2567 | 07:02 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ต.ค. 2567 | 07:51 น.

“บอสพอล” เคลียร์ปม ดิไอคอนกรุ๊ป เปิดเผยถึงบทบาทของบริษัท โดยยืนยันว่าจะรับผิดชอบต่อทุกปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเต็มที่

ประเด็นร้อนระดับประเทศ ดิไอคอนกรุ๊ป (The icon group) กลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้างและไม่มีท่าทีจะจบลงง่าย ๆ ก่อนหน้านี้ “บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล”  ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง The icon group ได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก ยืนยันว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เคยรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อน พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์

ล่าสุดวันที่ 14 ตุลาคม 67 บอสพอล ผู้ก่อตั้งบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ได้ออกมาเปิดเผยถึง กรณีข่าวดัง และเปิดเผยถึงบทบาทของบริษัท โดยยืนยันว่าจะรับผิดชอบต่อทุกปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเต็มที่

บอสพอล กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมที่จะรับผิดชอบ

ที่มาของดิไอคอนกรุ๊ป

ดิไอคอนกรุ๊ปก่อตั้งขึ้นในช่วงที่ธุรกิจออนไลน์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทได้นำเสนอโมเดลธุรกิจแบบการทำการตลาดแบบตรง โดยมีเป้าหมายในการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง บริษัทได้เริ่มต้นจากการจำหน่ายสินค้าเพียงชนิดเดียว แต่ต่อมาได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ออกไปอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีสินค้าให้เลือกมากกว่า 14 ไลน์ และมีฐานลูกค้ากว่า 3-4 แสนคน และมีบอสที่ติดตรงกับบริษัท 10 คน ณ ปัจจุบัน

ระดับการลงทุน

  • ขายปลีก เปิดบิล 2,500 บาท
  • ขายส่งเปิดบิล 25,000 บาท
  • ขายส่งรายใหญ่ 250,000 บาท

เปิดรายได้ ดิไอคอน กรุ๊ป โกยรายได้พันล้าน

กลยุทธ์การตลาดหลัก ๆ ของ The iCon Group  มีการทำการตลาดทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ อย่างต่อเนื่อง อย่างสื่อนอกบ้านไม่ว่าจะเป็น บิลบอร์ดยักษ์ใหญ่หลากสีพร้อมมีหน้าของดาราหนุ่มแถวหน้าของเมืองไทยหลายคนอยู่บนนั้น นั่นคือโฆษณาของบริษัท The iCon Group บริษัททำธุรกิจออนไลน์ที่เรียกได้ว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะใน

  • ปี 2564 สามารถทำรายได้รวมสูงถึงเกือบ 5,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
  • ปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 2,402,677,947 บาท
  • หนี้สินรวม 1,554,377,393 บาท
  • รายได้รวม 1,891,032,251 บาท
  • รายจ่ายรวม 1,862,137,799 บาท
  • เสียภาษีเงินได้ 9,113,250 บาท
  • กำไรสุทธิ 19,777,855 บาท