มั่นใจปี 2568 เศรษฐกิจฟื้น “THANN” เดินหน้ารุกสปา-สกินแคร์

16 ธ.ค. 2567 | 21:50 น.

THANN มั่นใจเศรษฐกิจปี 2568 ฟื้นตัว เดินหน้า 5 กลยุทธ์ “Product - Visual merchandising – Store – Staff – Marketing” จ่อขยายสาขาเพิ่ม 6-8 สาขาทั้งในไทยและต่างประเทศ ขณะที่กลุ่มลูกค้าหลักนักท่องเที่ยวจีนยังช้อปเพิ่ม ส่งผลปี 67 ยอดขายเติบโต 15%

นายฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธัญ-ออริซ่า จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ THANN เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมของตลาดสินค้าสปาและสกินแคร์เริ่มเห็นความคึกคักมากขึ้น หลังจากผ่านช่วงสถานการณ์โควิด-19 และในปีนี้บริษัทเปิด THANN Wellness Store เพิ่ม 7 สาขา เริ่มต้นตั้งแต่ไทเป ไต้หวัน, จีน (เมืองเซี่ยงไฮ้และซูโจว), มองโกเลีย, เวียดนาม และกรุงเทพฯ โดยล่าสุดเปิดให้บริการในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน รองรับกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และตอบโจทย์เทรนด์การทำงานแบบ Work From Home สำหรับลูกค้าที่อยากแต่งบ้านให้น่าอยู่ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์กลิ่นหอม

มั่นใจปี 2568 เศรษฐกิจฟื้น “THANN” เดินหน้ารุกสปา-สกินแคร์ “ปัจจุบัน THANN มีสาขากระจายอยู่ใน 16 ประเทศรวม 86 สาขา แบ่งเป็นสปา 19 สาขา ใน 2 รูปแบบ คือ สปาในโรงแรมระดับ 5 ดาว และสปาในแฟล็กชิพสโตร์ โดยภาพรวมธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศในปี 2566 ถึงปี 2567 มีการเติบโตประมาณ 15% ถือว่าไม่หวือหวามากนัก โดยมีสัดส่วนลูกค้าคนไทยราว 40% และลูกค้าต่างชาติ 60% โดยนักท่องเที่ยวจีนและชาวจีนที่พักอาศัยในประเทศไทยมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด”

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันกำลังซื้อของลูกค้าชาวจีนหดตัวลง ทำให้สินค้าลักชัวรีหลายแบรนด์มียอดขายจากจีนลดลง แต่สินค้าของไทยในตลาดยังคงแข็งแรงมีแนวโน้มเติบโตขึ้น และสินค้าของ THANN ก็ยังได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวจีน ซึ่งจะขายสินค้าผ่านหน้าร้านเป็นหลัก ส่วนการขายผ่านออนไลน์มีสัดส่วนราว 10% ซึ่งมีไว้เพื่อการตลาดและลูกค้าที่ซื้อสินค้าซ้ำเท่านั้น เพราะผลิตภัณฑ์ของ THANN เป็นสินค้าหอม ลูกค้าต้องการเข้ามาในร้านสัมผัสกลิ่นด้วยตัวเอง ประกอบกับทำเลที่ตั้งของร้านในแต่ละสาขาก็สามารถดึงดูดลูกค้าได้ดี

มั่นใจปี 2568 เศรษฐกิจฟื้น “THANN” เดินหน้ารุกสปา-สกินแคร์

ด้านแผนการตลาดแบรนด์ THANN จะมีสินค้าออกใหม่เฉลี่ย 3-4 ผลิตภัณฑ์ต่อปี ราคาไม่สูงมากนัก ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 30-40 ปี เป็นกลุ่มที่มีรสนิยม ต้องการกลิ่นหอมภายในบ้าน กลยุทธ์การทำตลาดจะมุ่งไปเน้นใน 2 แนวทาง ได้แก่ 1. ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไทย ฯลฯ ผ่านการใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมาเป็นพรีเซนเตอร์ เช่น ดารา, KOLs (Key Opinion Leader), อินฟลูเอนเซอร์ เป็นต้น 2. ผลิตสินค้าให้เหมือนกับของขวัญเหมาะกับการเป็นของฝากมากขึ้น รวมทั้งใช้การโปรโมททางสื่อสารมวลชน (Mass Media) มากขึ้นด้วย

ขณะที่ในปี 2568 บริษัทมุ่งเน้นการสร้งแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมสร้างยอดขายผ่านกลยุทธ์การทำตลาดใน 5 ด้าน ได้แก่ 1. Product: ผลิตภัณฑ์ต้องมีนวัตกรรม มีเอกลักษณ์ ดีและน่าสนใจ 2. Visual merchandising: ภาพลักษณ์ของสินค้าต้องทำให้ดีระดับโลก 3. Store: หน้าร้านต้องมีความน่าสนใจและมีเซอร์วิสที่ดีให้กับลูกค้า 4. Staff: พนักงานต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ หรือต้องมากกว่าที่ลูกค้าคาดหวังเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ รวมถึงภาษาที่สามารถสื่อสารสนทนากับลูกค้าได้ และ 5. Marketing: การตลาด ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญต้องทำให้ยอดเยี่ยม

มั่นใจปี 2568 เศรษฐกิจฟื้น “THANN” เดินหน้ารุกสปา-สกินแคร์

“แบรนด์ THANN อยู่ในตลาดมานานกว่า 20 ปี มีกำไรทุกปี ยกเว้นแค่ช่วงโควิด-19 ประมาณ 2 ปีเท่านั้น ซึ่งเราไม่เคยตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจไว้เป็นตัวเลข แค่ทำอย่างมีความสุข เลี้ยงลูกน้องพนักงานได้ ไม่ขยายสาขาเกินตัว เพิ่มสาขาเฉลี่ยเพียง 6-8 สาขาต่อปี สาขาส่วนใหญ่อยู่ในห้างที่เป็น Best Mall เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจเวลเนสของประเทศไทย โดยในปี 2568 หลังจากจบการการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ไปแล้วและอาจจะยุติเรื่องสงครามระหว่างประเทศได้ในเร็ววัน เราจึงคาดหวังว่าบรรยากาศการช้อปปิ้งของผู้คนทั่วโลกจะดีขึ้น และส่งผลดีต่อธุรกิจด้วย”