นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO กล่าวว่า บริษัทได้ฉีกแนวการขยายอาณาจักร ร้านอาหารในเครือ มากุโระ กรุ๊ป จากเดิมที่จะเน้นร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลี
ด้วยการเปิดแบรนด์แบรนด์ที่ 5 “CouCou” (คุคูว์) ซึ่งเป็นแบรนด์ล่าสุดของปีนี้ในร้านอาหารรูปแบบ All-Day Dining สไตล์ตะวันตก ณ The Flavorhood ประดิษฐ์มนูธรรม ต้อนรับปีใหม่ 2568
โดยเจาะกลุ่มลูกค้าผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารแบบ All-Day Dining ที่มาพร้อม กับการเสิร์ฟอาหารตั้งแต่เช้า กลางวัน และเย็น รองรับลูกค้าระดับพรีเมียม และพรีเมียมแมส โดยเริ่มเปิดบริการอาหารเช้า และเครื่องดื่มต่างๆ เวลา 8 โมงเช้า และ บริการอาหารหลักตั้งแต่ 11 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่ม
นอกจากนี้ เรายังเป็น บาริสต้ามืออาชีพ พร้อมรังสรรค์ กาแฟ และเครื่องดื่มคุณภาพตลอดทั้งวัน โดยเราคาดว่า CouCou จะช่วยขยายฐานลูกค้าของบริษัท ให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารแนวตะวันตก กลุ่มลูกค้าที่ชอบดื่มกาแฟและของหวาน ตลอดจนคนรุ่นใหม่ และผู้ที่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยอีกด้วย
นายเอกฤกษ์ กล่าวว่า CouCou หมายถึง สวัสดี ในภาษาฝรั่งเศส สะท้อนความเป็นกันเอง และอบอุ่นเสมือน การทักทาย ระหว่างเพื่อนสนิท ลูกค้าที่เข้ามารับประทานจะได้รับประสบการณ์ รับประทานอาหารอันอบอุ่น เหนือความคาดหมาย กับวัตถุดิบคุณภาพ
และการสร้างแบรนด์ใหม่ ครั้งนี้ MAGURO Group ยังคงยึดมั่นในแนวทางภายใต้แนวคิด "Give More" ให้มากกว่าที่ขอ เช่นเดิม ทำให้ ทุกมื้อของ CouCou ไม่ใช่เพียงการรับประทานอาหาร แต่คือ Special Moment & Memorable Experience ที่ลูกค้าจะได้สัมผัส อย่างแท้จริง
นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัว Tonkatsu AOKI (ทงคัตสึ อาโอกิ) ร้านทงคัตสึ ร้านดังจากประเทศญี่ปุ่น แบรนด์ที่ 4 ในเครือมากุโระ กรุ๊ป เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เป็นสาขาแรก ณ เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 3 โซน Nippon Avenue
ได้รับความนิยมล้นหลาม นอกจากลูกค้าจะเต็มทุกรอบทุกวันโดยยอมรอคิวประมาณ 3 ชั่วโมงแล้ว ยอดขายเฉลี่ยต่อบิล ยังสูงกว่าที่คาดไว้ประมาณ 50-60% ทำให้บริษัทมั่นใจว่า การเปิดสาขาเพิ่มอีก 3-4 สาขา ของ Tonkatsu AOKI (ทงคัตสึ อาโอกิ) จะช่วยการสร้างการเติบโตให้บริษัทฯได้ตามแผน
สำหรับภาพรวมทั้งปีนี้ บริษัทได้ขยายสาขาและเพิ่มแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเพื่อให้ครอบคลุม ลูกค้าทุกเซ็กเม้นท์ได้เติมเต็ม Ecosystem ของ MAGURO Group ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปี 2567 บริษัท ขยายร้านเกินเป้ารวมเป็น 37 ร้าน 5 แบรนด์ และคาดว่ายอดขายน่าจะเติบโตราว 30 % ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้
โดยบริษัทจะดำเนินกลยุทธ์ขยายร้านด้วยการเปิดรับไลเซนส์แบรนด์ร้านอาหารยอดนิยมจากต่างประเทศ ร้าน CouCou ตั้งบนพื้นที่ 2 ไร่ ที่ประกอบไปด้วยอีก 2 ร้านอาหารในเครือ MAGURO ทั้งร้าน MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิสไตล์ระดับพรีเมียม และ ร้าน HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกียากี้ หม้อเดี่ยว สไตล์คันไซ
โดยในพื้นที่มีการตกแต่งผสมผสาน ระหว่างความร่วมสมัย แต่ยังคงกลิ่นอายความเป็น ญี่ปุ่น รวมถึงสวน ในโครงการ ที่มีทั้งรูปแบบ Japanese Garden และ Modern Tropical Garden อีกทั้งยังมีความตั้งใจ ให้โครงการนี้เป็นการต่อยอดแนวทางด้านความรับผิดชอบ ต่อสิ่งแวดล้อม
โดยมีแผนการติดตั้ง จุดชาร์จ EV Charger และ Solar Roof ภายในโครงการ รวมถึงจุดรีไซเคิลขยะพลาสติก และการแยกขยะ อย่างเป็น ระบบอีกด้วย
ไฮไลต์สำคัญของ CouCou คือความหลากหลายของเมนูอาหารเช้าที่เต็มไปด้วยตัวเลือกมากมาย นำด้วย เมนูอาหารเช้าสุดคลาสสิก 2 สัญชาติ อย่าง The Liberty Breakfast (American Breakfast) และ Big Ben Breakfast (English Breakfast) รวมถึง Sandwich หลากหลายรูปแบบ และเมนู Pancake และ Waffle อีกมากมาย และในปี 2567 MAGURO Group มีร้านอาหารในเครือ รวมทั้งหมด 38 ร้านจาก 5 แบรนด์ คือ
1.) MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิสไตล์ระดับพรีเมียม 18 ร้าน
2.) SSAMTHING TOGETHER ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี วัตถุดิบพรีเมียม 6 ร้าน
3.) HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกียากี้ หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ 11 ร้าน และร้าน HITORI SUKIYAKI ร้านสุกียากี้คันไซแบบดั้งเดิมในรูปแบบ Authentic Japanese Sukiyaki Course ในรูปแบบ Stand Alone ซึ่งเปิดสาขาแรกที่เอกมัย 12
4.) Tonkatsu AOKI ร้านหมูทอดทงคัตสึร้านดัง จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เป็นสาขาแรก ณ เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 3 โซน Nippon Avenue และ
5.) CouCou เปิดวันที่ 25 ธ.ค. ที่ The Flavorhood ประดิษฐ์มนูธรรม