ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตได้เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ มีนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศมาเยือนจำนวนมาก ทำให้จังหวัดภูเก็ตประสบกับปัญหาบริการด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานไม่เพียงพอ เช่น ถนนที่มีรถติดอย่างหนัก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณรถยนต์ เส้นทางที่จะต้องตัดเพิ่มและขยาย น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคที่ไม่เพียงพอ การขาดแคลนแรงงาน ตลอดจนปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2566 ที่ห้องประชุมศูนย์ประสานงานการส่งเสริมสุขภาพอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต (มอ.ภูเก็ต) อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
เพื่อร่วมเวทีปรึกษาหารือ ที่หอการค้าจังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงานขึ้น เพื่อสะท้อนปัญหาด้านการท่องเที่ยวจากภาคเอกชน และผู้ประกอบการ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืน หลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจ ทั้ง 3 เขตในจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐฯ สังกัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา องค์กรภาคเอกชน หอการค้า สมาคมฯ ต่างๆ ,ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดกลุ่มอันดามัน ทั้ง ภูเก็ต กระบี่ พังงา และสื่อมวลชน เข้าร่วม
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมฯ เสนอถึงปัญหา และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น โดยภาคเอกชน และผู้ที่เข้าร่วมประชุมได้เสนอปัญหาโดยภาพรวม อาทิ โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่ยังไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเพียงพอ เรื่องของขนส่งมวลชน โลจิสติกส์ รวมทั้งถนนหนทาง ปัญหารถติดในพื้นที่ ปัญหาความเดือนร้อนของโรงแรมขนาดเล็ก การแก้ไขปัญหากฎกระทรวงฯ ใบอนุญาตเปิดโรงแรม และปัญหามาเฟียต่างชาติ เข้ามาทำธุรกิจในพื้นที่ โดยเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน และนักท่องเที่ยวในประเทศตนเอง เป็นต้น
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตอนนี้ภูเก็ตได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ภายใต้ชื่องาน Expo 2028- Phuket, Thailand เพื่อผลักดันบทบาทของประเทศไทย และจังหวัดภูเก็ต สู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ (Medical hub) และเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
การจัดงานสเปเชียลเอกซ์โป ภูเก็ต 2028 บนพื้นที่กว่า 141 ไร่ ใกล้กับสะพานสารสิน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งจะแบ่งพื้นที่จัดงานออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก โดยมีจัดสร้างศูนย์บริการทางการแพทย์ครบวงจร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และส่วนของงานเอ็กซ์โป ที่มีแผนจะสร้างศูนย์ประชุมขนาด 5,000 ที่นั่งเพิ่มเติม
รวมทั้งยังมีพื้นที่ใกล้เคียง ที่สามารถจะพัฒนา โดยออกแบบสถานที่ให้ต่อเนื่องจากศูนย์สุขภาพฯ ให้เป็นศูนย์กีฬาและคอมเพล็กซ์ เพื่อเป็นศูนย์ฟื้นฟูในการที่จะรองรับผู้ที่มาใช้บริการรักษา และมีห้องประชุมที่จะสามารถตอบโจทย์เรื่องของการประชุมไมซ์ ขนาดใหญ่ถึง 5,000 ที่นั่ง
อีกหนึ่งประเด็นคือ อู่ซ่อมเรือยอร์ชในภูเก็ต ที่จะสามารถเปิดให้บริการ และดึงดูดกลุ่มเรือยอร์ช ที่จะเข้ามาซ่อมบำรุงในจังหวัดภูเก็ต ตรงนี้ก็สามารถที่จะดำเนินการได้ และจะเกิดขึ้นต่อจากศูนย์สุขภาพ
ส่วนจังหวัดพังงา มีแผนจะดำเนินการพัฒนาในพื้นที่เกาะคอเขา ให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน หากประสบความสำเร็จ ก็จะขยายผลไปในพื้นที่กะปง และในพื้นที่เกาะยาวน้อยและเกาะยาวใหญ่ เพื่อสร้างให้เป็นเดสติเนชั่นใหม่ หากจะมาท่องเที่ยวแบบ “โลว์คาร์บอน” ก็ต้องมาที่จังหวัดพังงา ซึ่งแตกต่างจากจังหวัดภูเก็ต ที่มีความทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ถ้าต้องการเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์เชิง ก็ต้องมาที่จังหวัดพังงา
สำหรับจังหวัดกระบี่จะดำเนินการให้เป็น “เมืองสปา” ซึ่งอำเภอคลองท่อม อำเภอเหนือคลอง ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ในแผนฯ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการลงพื้นที่และมีผลการศึกษามาแล้ว จะสามารถพัฒนาให้กระบี่เป็นพื้นที่สปา
เป็นการพัฒนา 3 จังหวัดให้เป็น"สามเหลี่ยมอันดามัน" เป็นสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ ที่จะส่งเสริมต่อยอดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดอันดามัน เรื่องของการรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ สิ่งเหล่านี้เราก็จะสามารถมีทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรป สแกนดิเนเวีย นักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากประเทศจีน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ได้ เป็นต้น
นายพิพัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องประเด็นการแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ ทั้งเรื่องของปัญหาคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวภูเก็ต ได้ให้ทาง ดร.นาที รัชกิจประการ ดำเนินการติดตาม โดยก่อนหน้านี้ได้มีทีมงานลงพื้นที่ เพื่อทำการสำรวจและการทำ EIA
พื้นที่ตรงนี้โดยทางรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมมีความตั้งใจ ว่าจะดำเนินการแก้ไขให้ได้แน่นอน เพราะตระหนักดีว่าจังหวัดภูเก็ตเองตอนนี้ก็เจอเรื่องของปัญหารถติด และจะมีการเสนอหารือถึงความเป็นไปได้ ว่าจะมีการถ่ายโอนจากท้องถิ่นที่ดูแลในพื้นที่ อย่างเช่นถนนในป่าตองให้โอนมายังทางกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง การทางพิเศษ หรือทางหลวงชนบท ตรงนี้ก็จะสามารถดำเนินการได้ดีกว่า ทั้งงบประมาณ และความรวดเร็วในการดำเนินการ
เรื่องโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ก็ได้ประสานงานติดตามเพื่อแก้ไขให้แล้วเสร็จต่อไป อาทิ เรื่องของน้ำประปา และรวมไปถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เรื่องของมาเฟียในพื้นที่ ตรงนี้ก็ได้ประสานไปยังทางตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจในพื้นที่ ให้กำชับในเรื่องของการดูแลความปลอดภัย และจะประสานงาน กำชับไปกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้มากำกับดูแลในเรื่องนี้ด้วย ตลอดจนเรื่องของปัญหาโรงแรมเล็ก ก็ได้มีการประสานงานติดตามเพื่อจะดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวงฯให้แล้วเสร็จ
นายพิพัฒน์กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องฝากกำชับไปถึงในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมไปถึงผู้ประกอบการที่ประกอบการโดยการใช้นอมินี และพฤติกรรมต่างๆ ที่ผิดกฎหมาย ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ หากพบเจอก็ให้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจในพื้นที่ รวมไปถึงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหาให้เกิดความเรียบร้อย ซึ่งภูเก็ตเองตอนนี้ การท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมาแล้ว การร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี ก็จะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับภูเก็ต และประเทศไทยได้ยั่งยืนต่อไป