ล่าสุด 7 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวรายใหญ่ของไทย ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศไทยได้ลงนามความร่วมมือในการจัดตั้งสมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(สสทท.) หรือ FETTA หลังได้ลาออกจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) โดยให้ความสำคัญในการผลักดันท่องเที่ยวไทย เป็นเป้าหมายในการมาเยือนของนักท่องเที่ยวทั่วโลก มั่นใจการผนึกกำลังครั้งสำคัญนี้จะเดินหน้าบริหารงานได้คล่องตัวขึ้น
สมาคมด้านการท่องเที่ยวจำนวน 7 สมาคม ได้แก่ สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA), สมาคมโรงแรมไทย (THA), สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.), สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA), สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.), สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย (PGAT) และสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.)
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) หรือ แอตต้า เปิดเผยว่า FETTA มีเป้าหมายทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขความเดือดร้อนภาคการท่องเที่ยว และวางแผนรองรับอนาคตความเปลี่ยนแปลงของการท่องเที่ยวโลกและการท่องเที่ยวไทยอย่างเป็นระบบ
อีกทั้งสร้างเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่เกี่ยวข้องมาสนับสนุนได้อย่างเป็นรูปแบบมีความยั่งยืน มีความยืดหยุ่น และ เป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน นำมาสู่เป้าหมายของความยั่งยืนในด้านเศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม
สำหรับภารกิจเบื้องต้นนั้น FETTA โดยแอตต้าจะเร่งรัดการแก้ไขปัญหาการออกวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน ที่มองว่ายังใช้ระยะเวลาอนุมัติที่นาน และเสนอให้เพิ่มเที่ยวบินเข้าสู่ประเทศไทยทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคในระยะเร่งด่วน
FETTA เป็นหนึ่งกลไกเสาหลักของการท่องเที่ยวไทยที่ดูแลตลาด Inbound Outbound Domestic & Supply Chain ที่มีประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้แข่งขันบนเวทีโลกได้
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า FETTA กำลังจะรวบรวมปัญหาต่างๆของภาคธุรกิจในแต่ละเซ็กเตอร์ด้านการท่องเที่ยว เพื่อทำเป็นสมุดปกขาว เพื่อเสนอรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อแก้ปัญหาและขับเคลื่อนฟื้นฟูการท่องเที่ยว
ขณะนี้นักท่องเที่ยวจากหลายๆ ชาติฟื้นแล้ว แต่จีนเป็นชาติเดียวฟื้นตัวน้อยที่สุด โดยเดือน พ.ค. ฟื้นแค่ 20% ส่วนข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลใหม่ สมาคมฯเรียกร้องขอให้ชะลอหรือยุติการปรับขึ้นค่าแรงออกไปก่อน เพราะธุรกิจโรงแรมยังฟื้นตัวไม่ทั่วถึง ประกอบกับมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
เช่น ต้นทุนค่าไฟ ขณะเดียวกันจากวิกฤติโควิดที่ผ่านมาทำให้ธุรกิจโรงแรมมีภาระหนี้สินเยอะ ประกอบการธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับดอกเบี้ยสูงขึ้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้ขยายเวลาการจ่ายเงินต้นออกไปเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า การจัดตั้ง FETTA จะช่วยให้สมาชิกดำเนินงานได้คล่องตัวมากขึ้น สามารถเสนอแนวคิดแก่ผู้เกี่ยวข้องได้โดยตรง และเราลาออกจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยแล้ว คงไม่ไปละลาบละล้วงการทำงานของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
การที่ทั้ง 7 สมาคมมารวมตัวกันในนาม FETTA เพื่อลดขนาดเครือข่ายให้มีความฉับไว คล่องตัว มีประสิทธิภาพ และมีความเป็นมืออาชีพ โดยแต่ละสมาคมมีบุคลากรมากกว่า 100,000 คน โดยมีเป้าหมายร่วมกับรัฐบาลเพื่อวางแผนพัฒนาภาคการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน
สำหรับก้าวต่อไปแอตต้าจะเป็นหน่วยงานประสานเบื้องต้นในการจดทะเบียนจัดตั้ง FETTA ในอนาคต รวมถึงแนะนำตัวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน พร้อมร่วมกันจัดงาน Thailand International Tourism Conference ทุกปี เพื่อตอกย้ำภาคท่องเที่ยวไทยในฐานะผู้นำของภาคท่องเที่ยวโลก
ประเทศไทยเคยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเป็นอันดับ 9 ของโลก และสร้างรายได้การท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 4 ของโลกเมื่อปี 2562 ก่อนโควิดระบาด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า FETTA ไม่ได้เป็นศัตรูกับ สทท.
ความสำคัญของ 7 สมาคมท่องเที่ยว สมาชิก FETTA
นำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าในปี 2019 ประมาณ 10 ล้านคนสร้างรายได้ห้าแสนล้านบาท ประมาณ 40% ของรายได้ภาพรวมของประเทศ มีสมาชิก 1800 กว่าองค์กรในปัจจุบันเป็นหน่วยรบแนวหน้าในการเปิดตลาดนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาประเทศไทยตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรมา
มีโรงแรมเป็นสมาชิก 993 แห่ง 160,000 ห้องจ้างงาน ประมาณ 50,000ตำแหน่ง สัดส่วน 26% ของโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้อง เฉลี่ยเข้าพัก 65%ราคาเฉลี่ย 2000บาทต่อห้อง มีรายได้ ประมาณ 80000 ล้านบาทต่อปี (เฉพาะสมาชิก THA) ซึ่งจะมีความเชื่อมโยงกับซัพพลายเชนกับ อาหาร ข้าวของเครื่องใช้ ทั้งอุปโภค บริโภคที่สำคัญ
มีสมาชิก 900 กว่าองค์กร ปี 2019 มีนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศ 12 ล้านคน มูลค่า สามแสนกว่าล้านบาท และตลอดเวลาจะมีหน่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวจากต่างประเทศมาขอทำความร่วมมือกับ TTAA รวมถึงการเดินทางไปร่วมกิจกรรมในต่างประเทศสม่ำเสมอ ซึ่งตลาดคนไทยไปต่างประเทศที่มีมากถึง 12 ล้านคนนี้ ถือเป็นตลาดสำคัญของทุกประเทศที่ต้องการเพราะคนไทยเป็นตลาดคุณภาพ สามารถทำให้รัฐบาลนำมาเจรจาต่อรองแลกเปลี่ยนการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพ
สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) สมาชิก 175 ราย รถ 9,700 คัน
สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย (PGAT) สมาชิกตลอดชีพ 1,640 คน รายปี 250 คน
สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) สมาชิกสามัญและวิสามัญ 210 ราย
ดังนั้น การรวมตัวขับเคลื่อนภายใต้ร่มที่เล็กลงแต่มีคุณภาพมากขึ้นจากสมาชิกทั้ง 7 สมาคมเน้นความสามารถ ทักษะ ประสบการณ์ และ ความตั้งใจการทำงานเพื่อส่วนรวมและแก้ไขปัญหาสมาชิกให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีเป้าหมายหลักคือ “เป็นองค์กรที่เป็นส่วนหนึ่งของกลไกขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพ และ คล่องตัว มีความเป็นเอกภาพ”
FETTA กับ ภารกิจ และ เป้าหมาย
การรวมตัว
เป้าหมาย
ประโยชน์