“ยี่เป็งเชียงใหม่ 2566” พ่อเมืองสั่งคุมเข้ม ปล่อยโคมลอยกว่า 4 หมื่นดวง

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้เตรียมการที่จะจัดงานยี่เป็งเชียงใหม่ 2566 หรืองานลอยกระทง ระหว่างวันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2566 เพื่อให้ประชาชนคนเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้มีความสุขและความสนุกสนานและเป็นไปด้วยความปลอดภัย จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ออกมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการปล่อยโคมลอยในช่วงประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2566 

จังหวัดได้ดำเนินการใน 2 ส่วน ส่วนแรกคือมาตรการที่เป็นวัฒนธรรมประเพณีและความสนุกสนาน ทุกเทศบาล ทุกองค์กรได้เตรียมการในการจัดงานยี่เป็ง หรืองานลอยกระทงในลำน้ำปิงให้ มีสีสันได้สนุกสนานประทับใจกลับบ้านไป มาตรการที่สอง เป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการปล่อยโคมลอย กำหนดอยู่ 2 พื้นที่ ได้แก่พื้นที่แรกห้ามปล่อยเด็ดขาดพื้นที่ในเขตเมือง ชุมชนหนาแน่นที่กังวลว่าปล่อยไปแล้วโคมจะหล่นลงมาใส่หลังคาบ้านเกิดไฟไหม้ กับพื้นที่ๆเป็นเขตการบิน ห้ามปล่อยเด็ดขาด 

ส่วนพื้นที่ที่สอง เป็นโซนนิ่งที่อนุญาตให้ปล่อยได้ เพราะว่าไม่ได้อยู่ในพิสัยการบิน และไม่ได้อยู่ในเขตชุมชน นายอำเภอแต่และอำเภอจะเป็นผู้กำหนด ซึ่งได้กำหนดมาแล้วและมีผู้ที่มายื่นขออนุญาต ผู้ประกอบการต่างๆทั้งขายทัวร์นักท่องเที่ยว ซึ่งแสดงความสนใจกันมากติดต่อกันและประสานกันอยู่ ในพื้นที่ๆอนุญาตให้ปล่อยก็มีการควบคุม ชนิดของโคมที่จะปล่อยให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน 

โดยได้กำหนดวันและเวลาปล่อยโคม รวมถึงลักษณะของโคม และพื้นที่ปล่อยโคมอย่างชัดเจน  สามารถทำการปล่อยโคมได้เพียง 2 วันเท่านั้น คือ วันที่ 27 และ 28 พฤศจิกายน 2566  ในวันที่ 27 พฤศจิกายน วันกระทงเล็ก จะอนุญาตให้ปล่อยโคมควัน หรือ ว่าวฮม ได้เฉพาะเวลา 10.00-12.00 น. (วันเดียว)ส่วนโคมลอยและโคมไฟ อนุญาตให้ปล่อยได้เฉพาะเวลา 19.00-01.00 น.  ส่วนในวันที่ 28 พฤศจิกายน วันแห่กระทงใหญ่ กำหนดให้ปล่อยโคมลอย และโคมไฟ ได้เฉพาะเวลา 19.00-01.00 น. แต่ไม่อนุญาตให้ปล่อยโคมควันหรือว่าวฮม  โดยเน้นย้ำว่า ต้องปล่อยในพื้นที่ที่มีการขออนุญาตแล้วเท่านั้น

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดพื้นที่ห้ามจุดและปล่อยโคมโดยเด็ดขาดใน 6 อำเภอ 39 ตำบล ประกอบด้วย อำเภอเมืองและอำเภอหางดง ทุกตำบล , อำเภอสารภี ในพื้นที่ตำบลขัวมุง ตำบลดอนแก้ว ตำบลสันทราย ตำบลท่าวังตาล และตำบลหนองผึ้ง , อำเภอสันทราย พื้นที่ตำบลหนองหาร , อำเภอแม่ริม พื้นที่ตำบลดอนแก้ว ตำบลเหมืองแก้ว ตำบลริมใต้ ตำบลแม่สา ตำบลริมเหนือ และอำเภอสันป่าตอง พื้นที่ตำบลทุ่งต้อม เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุมชนและอยู่ในรัศมีของการบิน  
 

สำหรับอำเภอและตำบลอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือพื้นที่ห้ามเด็ดขาด หากสถานที่ใดจะจัดให้มีการจุดและปล่อยโคมลอย จะต้องยื่นอนุญาตต่อนายอำเภอก่อนไม่น้อยกว่า 30 วัน หรือก่อนวันที่ 28 ตุลาคม 2566  โดยจะต้องทำสัญลักษณ์หรือสี เพื่อให้สะดวกในการติดตามหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น  พร้อมทั้ง ทำบันทึกข้อตกลงแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหาย และเตรียมแผนรักษาความปลอดภัยรองรับ  

นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่าโคมลอยที่จะปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้าได้นั้น จะต้องเป็นโคมลอยที่ถูกต้องตามมาตรฐาน มผช.808/2552 คือ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ของกระทรวงอุตสาหกรรม คือ ต้องมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 90 เซนติเมตร สูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ใช้กระดาษว่าวชนิดบาง มีปริมาณเชื้อเพลิงไม่เกิน 55 กรัม ใช้เวลาในการเผาไหม้ไม่เกิน 8 นาที  ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมกับระยะเวลาที่โคมลอยอยู่ในอากาศ และส่วนที่เป็นเชื้อเพลิงต้องยึดติดกับเชือกทนไฟหรือลวดอ่อน  พร้อมระบุชื่อผู้ผลิต สถานที่ผลิต และคำเตือนติดกับตัวโคมลอยด้วย ที่สำคัญคือ ห้ามผูกพลุ ดอกไม้ไฟ ประทัดไปกับโคมในขณะปล่อยเด็ดขาด

โดยขณะนี้มีอำเภอที่ขออนุญาตปล่อยโคมแล้ว 8 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอแม่แตง สันทราย แม่ออน ดอยหล่อ ดอยสะเก็ด แม่ริม สันป่าตอง และสันกำแพง  และมีจำนวนโคมลอยที่ขออนุญาตปล่อยแล้ว จำนวน 10 ราย ใน 10 รายนี้จะมี 2 รายที่เป็นธุดงคสถาน หรือเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมที่อำเภอดอยหล่อ นอกนั้นก็จะเป็นภาคเอกชนทั้งสิ้น รวมแล้วประมาณกว่า 40,000 ดวง 

และยังได้รับการประสานจากบางอำเภอ เช่น อำเภอสันป่าตอง จอมทอง ว่ามีการยื่นขออนุญาตเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้อยู่ในระหว่างขออนุญาตศูนย์ควบคุมการบิน และอยู่ระหว่างคณะกรรมการระดับอำเภอในการตรวจสอบพื้นที่ก่อนที่จะอนุญาต ในวันปล่อยโคมจะมีอยู่ 2 วันคือวันที่ 27 และ 28 พฤศจิกายน จะต้องมีการขอความร่วมมือจากท้องถิ่น นำรถกู้ภัย รถฉุกเฉิน หน่วยปฐมพยาบาลเคลื่อนที่ มาเตรียมพร้อมเพื่อที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ประชาชนทั่วไปที่มาเที่ยวงานและดูแลบ้านเรือนบริเวณรอบๆให้ปลอดภัยอีกด้วย

ทั้งนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนการจุดและปล่อยโคมลอยโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากปล่อยโคมทำให้เกิดเพลิงไหม้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบเห็นการกระทำผิดกฏหมาย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ จนสามารถนำไปสู่การจับผู้กระทำผิดได้สามารถรับรางวัลนำจับตามอัตราที่กฎหมายกำหนด

จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นชื่อและมีชื่อเสียงมากในการปล่อยโคมยี่เป็ง ซึ่งก่อนที่จะมีเหตุการณ์ยิงกัน ณ วันนี้ หลังเหตุการณ์ยิงกัน นักท่องเที่ยวจีนลดไปแล้ว 18%  ไปรวมกับเรื่องวันชาติจีนที่จะจะสิ้นสุดระยะเวลาที่จะหยุดยาวของประเทศจีน ยิ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมากขึ้น เพราะฉะนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ ปี2566 จะเป็นความประทับใจ ความปลอดภัยทั้งนักท่องเที่ยว ผู้มาเที่ยวงาน และพี่น้องคนเชียงใหม่