การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มลูกเรือใหม่ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เริ่ม 1 ม.ค.67

25 ต.ค. 2566 | 11:04 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ต.ค. 2566 | 13:58 น.

การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือ ลูกเรือใหม่ โดยเป็นผ้าชุดไทยที่ถูกนำมาตัดด้วยเส้นไหมถักทอผสมผสานกับเส้นใยแปรรูปจากวัสดุรีไซเคิล เน้นความลงตัวของอัตลักษณ์ความเป็นไทยและแนวคิดเพื่อความยั่งยืน โดยจะเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.67

วันนี้ (วันที่ 25 ตุลาคม 2566) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าว “FROM PURPLE TO PURPOSE” การปรับเปลี่ยนเครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงที่ผสมผสานอัตลักษณ์ความเป็นไทยเข้ากับแนวคิดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) อย่างลงตัว โดยจะเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มลูกเรือใหม่ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เริ่ม 1 ม.ค.67

โดยมี นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯ พร้อมด้วย นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคณะผู้บริหารร่วมแถลงข่าว

การบินไทยตัวชุดยูนิฟอร์มใหม่ ทำจากวัสดุรีไซเคิล

ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา การบินไทยดำเนินธุรกิจโดยตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากอุตสาหกรรมการบินมาอย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงกระบวนการทำงานด้านต่างๆ

โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านกิจกรรมและโครงการริเริ่มต่างๆ ทั้งในรูปแบบการลดการใช้ทรัพยากร ลดปริมาณขยะด้วยการนำวัสดุที่ไม่ใช้งานแล้วกลับมาพัฒนาสร้างคุณค่าให้เกิดประโยชน์เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ชุดยูนิฟอร์มใหม่การบินไทย ทำจากวัสดุรีไซเคิล

มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) ภายใต้แนวคิด Zero Waste Living ซึ่งประกอบด้วยหลักการหลัก 3 ประการ ได้แก่

  • FROM PLANES TO PLANET-การบินเพื่อสิ่งแวดล้อม
  • FROM WASTE TO WEALTH-การพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
  • FROM PURPLE TO PURPOSE-จากใจสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืน

การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มลูกเรือใหม่ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เริ่ม 1 ม.ค.67

เครื่องแบบชุดไทยเรือนต้นของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงของการบินไทยเป็นที่รู้จักแพร่หลายในระดับนานาชาติ และได้รับการยอมรับในเรื่องความสวยงาม ได้รับการจดจำและเป็นสิ่งแสดงออกถึงเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความเป็นสายการบินแห่งชาติ

เปรียบเสมือนประตูบานแรกที่เปิดต้อนรับผู้โดยสารจากประเทศต่างๆ มาเป็นระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ ได้ถูกนำมาตัดเย็บด้วยเส้นไหมไทยถักทอผสมผสานกับเส้นใยแปรรูปจากวัสดุรีไซเคิล คงไว้ซึ่งความงดงามในความเป็นไทยที่เพิ่มคุณลักษณะพิเศษเฉพาะตัวด้วยประโยชน์ใช้สอยครบถ้วน

การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มลูกเรือใหม่ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เริ่ม 1 ม.ค.67

โดดเด่นในเรื่องความง่ายในการดูแลรักษา การคงรูปแต่ให้ความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการใช้งาน และยังได้มีการทดสอบในด้านความปลอดภัยที่เป็นตามมาตรฐานสากล

การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มลูกเรือใหม่ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เริ่ม 1 ม.ค.67 การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มลูกเรือใหม่ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เริ่ม 1 ม.ค.67

เครื่องแบบชุดไทยเรือนต้นดังกล่าวจะปรากฏในทุกที่สาธารณะทั่วโลกและทุกชั้นบริการบนเครื่องบิน ในฐานะเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงของการบินไทย ซึ่งจะสวมใส่พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มลูกเรือใหม่ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เริ่ม 1 ม.ค.67

การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มลูกเรือใหม่ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เริ่ม 1 ม.ค.67 การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มลูกเรือใหม่ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เริ่ม 1 ม.ค.67

ที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มดำเนินการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานด้วยการนำเครื่องบินและเครื่องยนต์สมัยใหม่ที่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำมาใช้ในการให้บริการ และปรับปรุงการปฏิบัติการบิน อาทิ การนำเทคนิค Single Engine Taxi และการลดน้ำหนักการบรรทุกมาปรับใช้ในการปฏิบัติการบิน เป็นต้น

การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มลูกเรือใหม่ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เริ่ม 1 ม.ค.67

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการปรับปรุงกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งรวมถึงการจัดทำแผนการนำเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF-Sustainable Aviation Fuel) มาใช้ทำการบิน และการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจด้านอื่นๆ นอกเหนือจากกิจกรรมการบิน อาทิ กิจกรรมครัวการบิน กิจกรรมสายช่าง กิจกรรมการบริการภาคพื้น ตลอดจนกิจกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนทางสังคม อาทิ การสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากภาคการเกษตรของเกษตรชาวไทยและผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่บริษัทฯกำหนดไว้