เอ็มเจ็ท ทุ่ม 450 ล้านบาท ลงทุนสิงคโปร์ มุ่งเป้าอันดับ 1 เจ็ทหรูเอเชีย

บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด (MJets) ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวและการบินส่วนบุคคลครบวงจรของประเทศไทย ประกาศเข้าลงทุนใน บริษัท วิงส์โอเวอร์เอเชีย จำกัด (WingsOverAsia) บริษัทผู้ให้บริการเครื่องบินส่วนตัวสัญชาติสิงคโปร์ การลงทุนในครั้งนี้ทำให้เอ็มเจ็ทสามารถขยายเครือข่ายการให้บริการไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศในเอเชียได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น สอดรับปัจจัยบวกจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องบินส่วนตัวในภูมิภาคดังกล่าวที่พบว่ามีความต้องการสูงขึ้นต่อเนื่อง

นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด กล่าวว่า จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเครื่องบินเจ็ทและการบินส่วนบุคคลในเอเชียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอาเซียน อ้างอิงจากการคาดการณ์ขององค์กรวิจัยการตลาด Mordor Intelligence ที่วิเคราะห์อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ของอุตสาหกรรมดังกล่าวที่ 14.36% ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นจาก 463.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 สู่ 906.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2572

จากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการเพิ่มของลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงและสูงพิเศษ (High & Ultra-High Net Worth Individuals) ที่แสวงหาประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับ ตลอดจนการจัดกิจกรรมทางธุรกิจอย่างการประชุม มหกรรม หรือการพูดคุยระหว่างองค์กรในภูมิภาคดังกล่าวมากขึ้น

ปัจจัยเหล่านี้เป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ทำให้เอ็มเจ็ทตั้งเป้าเพิ่มการลงทุนและขยายเครือข่ายการบินในอาเซียนให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ทั้งในปีนี้และในอนาคต เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการบินส่วนบุคคล พร้อมผลักดันให้องค์กรบรรลุเป้าหมายการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านเครื่องบินส่วนตัวครบวงจรระดับเวิลด์คลาส อันดับ 1 ของเอเชียได้สำเร็จ 

ด้านนายกิริต ชาห์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด กล่าวว่า เอ็มเจ็ท เริ่มดำเนินธุรกิจในไทยในปี 2550 ต่อมาในปี 2553 บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพและช่องว่างการเติบโตของธุรกิจการบินส่วนบุคคลในไทย จึงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการสร้างศูนย์บริการอากาศยานส่วนบุคคลครบวงจร (FBO) แห่งแรกในทยซึ่งได้รับการโหวตให้เป็น FBO ที่ดีที่สุดในเอเชียต่อเนื่องกันถึงเก้าปีโดย Aviation International News (AIN)     

ปัจจุบันเอ็มเจ็ทให้บริการใน 7 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

1. บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำ ซึ่งได้แก่ เครื่องบิน Cessna Citation Bravo 2 ลำ Cessna Citation X 1 ลำ Gulfstream GV และเครื่องบินลำล่าสุด Gulfstream G550 1 ลำ
2. บริการเครื่องบินพยาบาล
3. การบริหารเครื่องบิน
4. บริการอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคลพร้อมห้องรับรองพิเศษ
5. บริการซ่อมบำรุงเครื่องบิน
6. บริหารธุรกิจการบินส่วนบุคคลและการบริการภาคพื้นแบบครบวงจร
7. บริการให้คำปรึกษาและดำเนินการซื้อขายเครื่องบิน ถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรายใหญ่และครบวงจรที่สุดในอาเซียน

นอกจากนี้ยังได้ขยายกิจการธุรกิจการบินส่วนบุคคลไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ทั้งประเทศอินเดีย เมียนมาร์ และกัมพูชาด้วย 

นายณัฏฐภัทร สีบุญเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด กล่าวว่า ด้วยผลการดำเนินงานที่มั่นคง ประกอบกับเทรนด์การเติบโตของอุตสาหกรรมการบินส่วนตัวในอาเซียน เอ็มเจ็ท จึงลงทุนใน “วิงส์โอเวอร์เอเชีย” มูลค่าการลงทุน 17 ล้านดอลล่าร์สิงคโปร์ หรือราว 450 ล้านบาท

เนื่องจากบริษัท วิงส์โอเวอร์เอเชีย เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านการบินส่วนตัวชั้นนำ ที่มีเครือข่ายแข็งแกร่งในภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการที่ครบครันในประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นรากฐานให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้

โดยการลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นแผนการลงทุนในระยะยาว เพื่อให้เอ็มเจ็ทสามารถพัฒนาธุรกิจสู่ตำแหน่งผู้นำในระดับโลก โดยเรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะเป็นก้าวที่ทำให้เอ็มเจ็ทสามารถบรรลุเป้าหมายที่คาดหวังได้สำเร็จ พร้อมกันนี้ เอ็มเจ็ทได้ตั้งเป้าหมายขยายการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในปี 2569  

“ปัจจุบันเอ็มเจ็ท ให้บริการธุรกิจการบินส่วนบุคคลใน ไทย เมียนมาร์ กัมพูชา อินเดีย ยังขาดอยู่ที่อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ดังนั้นการลงทุนใน “วิงส์โอเวอร์เอเชีย” ก็จะช่วยขยายการให้บริการนี้ในสิงคโปร์  และเราจะใช้โมเดลมองการเข้าลงทุนร่วมกับบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละประเทศ เพื่อขยายการให้บริการการบินส่วนบุคคลในอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ที่เอ็มเจ็ทยังขาดอยู่”

สำหรับการดำเนินธุรกิจของเอ็มเจ็ท ปัจจุบันรายได้หลักของเอ็มเจ็ท มีสัดส่วนรายได้ 55% มาจาก บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำและบริการเครื่องบินพยาบาล อีก 30% มาจาก การบริหารธุรกิจการบินส่วนบุคคลและการบริการภาคพื้นแบบครบวงจร โดยภายหลังความร่วมมือดังกล่าวจะส่งผลให้การบริการภาคพื้นจะขยายตัวขึ้น นายณัฏฐภัทร กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่นายอึ้ง โหย่ว เหมง ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิงส์โอเวอร์เอเชีย จำกัด กล่าวว่าวิงส์โอเวอร์เอเชีย ก่อตั้งขึ้นในปี  2552 โดยพัฒนาจากการเป็นผู้บุกเบิกเครือข่ายการบินและบริการต้อนรับผู้โดยสารแห่งแรกของเอเชีย ไปสู่การออกแบบและสร้างศูนย์บริการเครื่องบินส่วนตัวครั้งแรกของภูมิภาค ณ สนามบินนานาชาติเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ที่โรงเก็บอากาศยานของเรา ได้มีการให้บริการต่าง ๆ ทั้งการขาย การบำรุงรักษา และการบริหารจัดการเครื่องบิน การฝึกอบรบการบิน การสนับสนุนการบิน บริการอาหารและเครื่องดื่ม ไปจนถึงกิจกรรมไลฟ์สไตล์และการดูแลลูกค้าสมาชิกอย่างเหนือระดับ 

ด้วยการเติบโตของธุรกิจการบินส่วนตัวที่มาพร้อมบริการครบวงจร ประกอบกับศักยภาพในการในการเจาะตลาด FBO และตลาดการซื้อขายอากาศยานเพื่อการฝึกบินในภูมิภาค ตลอดจนความเชี่ยวชาญในการบริการลูกค้าทั่วอาเซียน จึงมีความมั่นใจว่าวิงส์โอเวอร์เอเชีย จะเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมสำหรับเอ็มเจ็ทที่ต้องการต่อยอดธุรกิจการบินส่วนตัวในตลาดอาเซียนและเอเชียได้อย่างแน่นอน

ในอนาคต นอกจากการสนับสนุนเอ็มเจ็ทส์ให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นธุรกิจเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวและการบินส่วนบุคคลอันดับหนึ่งในเอเชียแล้ว วิงส์โอเวอร์เอเชียมีแผนจะพัฒนาการดำเนินงานและการบริการให้เข้าถึงลูกค้าทุกภาคส่วนในระดับสากล ตลอดจนขยายขอบเขตการดำเนินงานและพื้นที่ในการบริการให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางการบินที่สามารถรองรับเครื่องบินส่วนตัวรุ่นใหม่และมาพร้อมการบริการแบบครบวงจร

นอกจากนี้จะร่วมมือกับบริษัทการผลิตต่าง ๆ (Original Equipment Manufacturer) ที่มีเทคโนโลยีการบินขั้นสูง เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ทันสมัย และหรูหรา ที่มาพร้อมความปลอดภัยสูงสุด สอดรับวิสัยทัศน์การพัฒนาบริการที่เหนือระดับสำหรับเจ้าเครื่องบินส่วนตัวของและผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องบินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้