AOT แจ้งคิงเพาเวอร์ ยกเลิกขายดิวตี้ฟรีขาเข้าใน 5 สนามบิน มีผล 1 ส.ค.นี้

31 ก.ค. 2567 | 19:00 น.

AOT แจ้งคิงเพาเวอร์ ยกเลิกขายดิวตี้ฟรีขาเข้าใน 5 สนามบิน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป หลังบอร์ดทอท.ไฟเขียว เห็นชอบขอคืนพื้นที่ ตามมติครม. ส่งผลให้ทอท.เตรียมหารายได้เพิ่ม ทดแทนรายได้ลดลง 143 ล้านบาทต่อเดือน

วันนี้ (วันที่ 1 สิงหาคม 2567) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT หรือ ทอท. ได้แจ้งคิงเพาเวอร์ ยกเลิกขายดิวตี้ฟรีขาเข้าใน 5 สนามบิน มีผล 1 สิงหาคม 2567 นี้หลังจาก ทอท.ได้เรียกขอคืนพื้นที่ดิวตี้ฟรีขาเข้า จากคิงเพาเวอร์ แล้ว ซึ่งผ่านการอนุมัติจากบอร์ดทอท.ไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา

หลังจากกระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร ได้มีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือจากบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ในการดำเนินการตามมติ ครม.
ที่ให้ยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรการส่งเสริมประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย 

โดยบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ก็ได้ทำหนังสือถึงกรมศุลกากร แจ้งยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับกรมศุลกากร พร้อมทั้งมีหนังสือถึง ทอท. แจ้งการหยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้า ในพื้นที่ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ซึ่งประกอบไปด้วย

  • พื้นที่ดิวตี้ฟรีขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวนพื้นที่ประมาณ 1,870.69 ตารางเมตร
  • พื้นที่ดิวตี้ฟรีขาเข้าท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ จำนวนพื้นที่รวมประมาณ 217.45 ตารางเมตร 
  • พื้นที่ดิวตี้ฟรีขาเข้า ท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวนพื้นที่ประมาณ 162.46 ตารางเมตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

นายกฤช ภาคากิจ เลขานุการบริษัท บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้รายงาน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ศึกษาความเหมาะสมในการดำเนินมาตรการยกเลิกการอนุญาตให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาเข้า

รวมถึงการยกเว้นอากรของที่ซื้อจากร้านค้าปลอดอากรสำหรับผู้โดยสารขาเข้าเพื่อส่งเสริมการบริโภค และการใช้สินค้าภายในประเทศ และมติ ครม. เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่ประชุมได้มีมติรับทราบแนวทางการหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาเข้าของผู้ประกอบการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 

โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงวงเงินใช้จ่ายในร้านค้าปลอดอากรขาเข้าดังกล่าว มากระจายหมุนเวียนในประเทศให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในภาพรวมได้มากยิ่งขึ้นนั้น

กระทรวงการคลังโดยกรมศุลกากร ได้มีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือจากบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ในการดำเนินการตามมติ ครม.ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

อีกทั้งการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 10/2567 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติให้บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด หยุดประกอบกิจการคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาเข้า โดยให้ ทอท. รับคืนพื้นที่ประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าดังกล่าวจาก KPD จำนวนพื้นที่โดยรวมประมาณ 2,250.60 ตารางเมตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

ทั้งนี้การหยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าของคิงเพาเวอร์ มีผลทำให้พื้นที่ ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรของ KPD ที่ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. เปลี่ยนแปลงลดลง ซึ่งตามสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรระหว่าง ทอท. กับ KPD ได้กำหนดไว้ว่า ในกรณีพื้นที่ประกอบกิจการตามสัญญามีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่กำหนดไว้ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้คิดค่าผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามจำนวนพื้นที่ร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง แล้วแต่กรณี

ดังนั้นในกรณีนี้ จะทำให้ ทอท. มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 1.70 ล้านบาท และค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนในช่วงปีสัญญา 2567 –2568 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดลงเป็นจำนวนเงิน เดือนละประมาณ 126.25 ล้านบาท ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต, ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 8.41 ล้านบาท และท่าอากาศยานดอนเมืองลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 6.96 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ทอท. มีโครงการที่จะเพิ่มรายได้จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ซึ่งจะเป็นการชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลงต่อไป