179 โรงแรมไทยอ่วม 2 บิ๊กบริษัททัวร์เยอรมนี เบี้ยวหนี้ 173 ล้านบาท

17 ส.ค. 2567 | 01:30 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ส.ค. 2567 | 01:30 น.

179 โรงแรมไทยอ่วม ถูก 2 บิ๊กบริษัททัวร์ยุโรป เบี้ยวหนี้รวม 173 ล้านบาท หลังล้มละลาย สมาคมโรงแรมไทย เร่งสรุปความเสียหาย ประสานกระทรวงท่องเที่ยว หารือกระทรวงการต่างประเทศ หวังให้ยื่นเรื่องต่อไปยังสถานทูตเยอรมนีในไทย ประสานกับทางรัฐบาลเยอรมนี ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย

 

จากกรณีบริษัททัวร์รายใหญ่ในยุโรป จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ไอ ทราเวล (I Travel) และ บริษัท FTI Touristik GmbH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มบริษัท FTI GROUP และเป็นผู้ประกอบการบริษัททัวร์รายใหญ่อันดับ 3 ในยุโรป ได้ยื่นล้มละลาย ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมในไทยได้รับผลกระทบกันทั่วทุกภูมิภาค จากการค้างชำระเงินค่าห้องพักที่เกิดขึ้น ซึ่งจนถึงขณะนี้ผู้ประกอบการโรงแรมไทยยังไม่ได้การชำระหนี้ที่เกิดขึ้น รวมกว่า 173 ล้านบาท

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าล่าสุดสมาคมโรงแรมไทย ได้อัปเดตโรงแรมที่มีปัญหาการค้างชำระเงินค่าห้องพัก ตามสัญญาจากบริษัทนำเที่ยวต่างชาติ 2 บริษัทจากยุโรปที่ล้มละลายไป โดยพบว่าในส่วนของบริษัท ไอ ทราเวล ซึ่งเป็นบริษัททัวร์เยอรมนีที่เจาะกลุ่มตลาดลักชัวรี มีโรงแรมในไทย ได้รับความเสียหายมูลค่า 3 ล้านบาท โดยผู้เสียหายจะเป็นโรงแรมในพื้นที่เชียงใหม่และเชียงรายเป็นส่วนใหญ่

ขณะที่การค้างชำระหนี้จากบริษัททัวร์ FTI ของประเทศเยอรมนี มีโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจำนวน 179 โรงแรม เป็นยอดเงินรวม 170.8 ล้านบาท โดยเป็นโรงแรมในภาคใต้มากที่สุด อยู่ที่ 113 โรงแรม เป็นเงิน 141.4 ล้านบาท ตามมาด้วยโรงแรมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 33 โรงแรม วงเงิน 19.1 ล้านบาท โรงแรมในภาคตะวันออก 25 โรงแรม วงเงิน 8.4 ล้านบาท ภาคตะวันตก 5 โรงแรม เป็นเงิน 1.39 ล้านบาท และโรงแรมในภาคเหนือ 3 โรงแรม เป็นเงิน 4.49 แสนบาท

โดยในขณะนี้สมาคมโรงแรมไทยอยู่ระหว่างรวบรวมผลกระทบที่เกิดขึ้นเสนอไปยังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อให้ททท.นำเรื่องเสนอไปยังนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอให้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศ และขอให้ยื่นเรื่องต่อไปยังสถานทูตเยอรมนีในไทย เพื่อขอให้ช่วยประสานกับทางรัฐบาลเยอรมนี ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยต่อไป

โรงแรมไทยอ่วมถูกบริษัททัวร์เยอรมนีเบี้ยวหนี้

นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การล้มละลายของ FIT ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมในหลายประเทศ เพราะเขาส่งนักท่องเที่ยวมาพักทั่วโลก แต่ที่ผ่านมาทราบว่ารัฐบาลเยอรมนีได้ทยอยเยียวยาผู้ประกอบการในเยอรมนี และประเทศในสหภาพยุโรปอียูบ้างแล้ว เช่น สเปน โดยจ่ายชำระค่าห้องพักให้แก่คนที่จ่ายค่าห้องพักไปแล้ว แต่ยังไม่เดินทาง ซึ่งก็คาดว่าอียูอาจจะมีกฏหมายที่เกี่ยวกับคุ้มครองผู้บริโภค แต่ประเทศนอกอียูที่โดนเหมือนกับประเทศไทย ก็ยังไม่มีใครได้รับการชำระค่าห้องพักที่ค้างจ่าย ซึ่งไทยอาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่นเพราะมีนักท่องเที่ยวยุโรปเดินทางเข้ามาเที่ยวมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยก็มีความระมัดระวังในการทำธุรกิจกับคู่ค้าต่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งในกรณีของทัวร์ FTI เป็นบริษัทใหญ่ และมีการส่งนักท่องเที่ยวเข้ามาต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีเพียงสัญญาณว่ามีคนย้าย-เข้าออกจากบริษัทเท่านั้น แต่โรงแรมต่างๆก็ยังมีบุ๊กกิ้งการจองเข้ามาอยู่ และเป็นยอดการจองลอตใหญ่ บางโรงแรมก็ได้ลูกค้าจากเอเย่นต์หลักสูงถึง 3-4 ล้านบาทต่อปี การที่อยู่ๆเขาประกาศล้มละลายก็ทำให้ผู้ประกอบการคาดไม่ถึงเหมือนกัน

ส่วนความเสียหายของธุรกิจโรงแรมที่เกิดขึ้น เราก็หวังว่ารัฐบาลจะช่วยประสานงาน เพื่ออย่างน้อยก็ให้ได้รับการเยียวยา อีกทั้งต่อไปผู้ประกอบการก็ต้องเก็บไว้เป็นบทเรียน ซึ่งจะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการให้เครดิตล่วงหน้ากับบริษัททัวร์ หรือให้วงเงินเครดิตอาจต้องลดลง จากเดิมตามปกติโรงแรมจะให้เครดิตระยะเวลา 30 วันแก่บริษัทนำเที่ยว หลังจากลูกค้าเช็คเอาท์และออกใบแจ้งหนี้ให้แล้ว เพื่อให้ชำระค่าใช้จ่ายห้องพักให้เรียบร้อย

อีกทั้งต่อไปผู้ประกอบการโรงแรมอาจจะเลือกทำงานกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในระบบออนไลน์ ทราเวล เอเย่นต์ (OTA) มากขึ้น เพราะไม่ต้องมีการเรียกเก็บเงินแบบให้เครดิต และ ผู้ประกอบการคงต้องเริ่มมีระบบ Payment Gateway ซึ่งจะทำให้มีความสะดวกสบาย และลดความเสี่ยง ส่วนลูกค้าอาจจะเลือกที่จะจองห้องพักและตั๋วโดยสารผ่านช่องทางอื่นแทนผ่านบริษัทนำเที่ยว ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่า เช่นจองโดยตรงกับโรงแรมหรือสายการบิน หรือ จองผ่าน OTA

สำหรับแนวโน้มการเดินทางในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มที่ดี โดยทราบว่าสายการบินต่างๆกลับมาเปิดเส้นทางบินเข้าไทย 80% สูงกว่าที่คาดไว้ตอนต้นปีว่าจะอยู่ที่ 60-70% เมื่อเทียบกับปีก่อนเกิดโควิด-19

ด้านนางจิระวดี คุณทรัพย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.รับทราบปัญหานี้จากผู้ประกอบการโรงแรมไทยแล้ว ซึ่งจากการติดตามล่าสุดก็พบว่ารัฐบาลเยอรมนี ได้เยียวยาผู้ประกอบการในหลายบริษัทในประเทศเยอรมนี ที่ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ FTI บ้างแล้วแต่ยังไม่ทั้งหมด ส่วนโรงแรมที่ได้รับผลกระทบในไทย สมาคมโรงแรมไทยจะร่วมกับททท.ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อประสานสถานทูตเยอรมนีในไทย ว่าจะช่วยเหลือ หรือเยียวยาได้อย่างไร

อย่างไรก็ตามททท.ในฐานะเป็นหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยว การทำธุรกิจผู้ประกอบการต้องระมัดระวังตัวเองด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา เพราะการล้มของทัวร์โอเปอเรเตอร์ก็ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ในอดีตก็มีให้เห็นอยู่ ถ้าโรงแรมไม่มั่นใจจะให้ททท.ซึ่งมีสำนักงานในต่างประเทศช่วยตรวจสอบให้ได้ เพื่อเป็นดาต้าเบส ที่จะเอื้ออำนวยผู้ประกอบไทยทำธุรกิจได้อย่างราบรื่น