วันนี้ (วันที่ 17 ธันวาคม 2567) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบทบทวนมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยการปรับเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขมาตรการส่งเสริม ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
โดยจะเร่งให้ทัน เริ่มใช้ได้ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดยจะใช้งบประมาณของกรมการท่องเที่ยวแต่หากไม่เพียงพอ จะใช้งบกลาง ในส่วนที่เหลือ
โดยสิทธิประโยชน์หลักอยู่ที่ 15 % เมื่อมีการลงทุนในประเทศไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมรวมแล้วไม่เกิน 15 % ซึ่งหลังจากนี้ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โดยดำเนินการปรับปรุง ประกาศกรมการท่องเที่ยวในส่วนของเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมดังกล่าว จะส่งผลต่อการฟื้นฟูกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย กระจายรายได้สู่เมืองรอง การเพิ่มการจ้างงานคนไทย การเพิ่มมูลค่า ค่าใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและประชาชนโดยตรง ส่งเสริม soft power ของไทยไปยังต่างประเทศ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับกับแนวโน้มที่คณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่เข้ามาในไทยเป็นผู้สร้างรายใหญ่ เงินทุนสูง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศ
สำหรับความจำเป็นที่ต้องมีการทบทวนมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันประเทศต่างๆ เห็นประโยชน์จากธุรกิจถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ จึงได้ออกมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำในรูปแบบการคืนเงิน (Cash Rebate) หรือคืนภาษี (Tax Rebate/Tax Credit)
ทั้งนี้เพื่อดึงดูดผู้สร้างภาพยนตร์ให้เข้าไปถ่ายทำในประเทศตนอย่างต่อเนื่อง ไทยจึงจำเป็นต้องปรับเกณฑ์และเงื่อนไขให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ และการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่าขณะนี้ยังมีภาพยนตร์ต่างประเทศและซีรีส์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้ยื่นความประสงค์ขอรับเงินคืนตามมาตรการ Incentive อีกจำนวนกว่า 22 เรื่อง คาดการณ์ว่าในปีนี้จะสร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่า 7,053 ล้านบาท
ถือเป็นการตอกย้ำว่าประเทศไทยมีศักยภาพ มีความพร้อมในการรองรับกองถ่ายทำภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่มีเงินลงทุนถ่ายทำสูง และเป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ในระดับภูมิภาค