วันนี้ (วันที่ 15 เมษายน 2568) สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า ทางการจีนออกคำสั่งไม่ให้สายการบินจีน รับมอบเครื่องบินเพิ่มเติมจากบริษัท โบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องยนต์อากาศสัญชาติสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการตอบโต้ที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนสูงถึง 145%
จีนสั่งสายการบิน ระงับรับมอบเครื่องบินจากโบอิ้ง ตอบโต้สหรัฐ
รัฐบาลปักกิ่งยังขอให้สายการบินจีนยุติการซื้ออุปกรณ์และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินจากบริษัทของสหรัฐด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาหาแนวทางที่จะให้ความช่วยเหลือแก่สายการบินจีนที่เช่าเครื่องบินของโบอิ้งและกำลังเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้คาดว่าจีนจะมีสัดส่วนถึง 20% ของความต้องการเครื่องบินทั่วโลกในช่วงสองทศวรรษข้างหน้า ในปี 2018 เกือบหนึ่งในสี่ของการส่งมอบเครื่องบิน โบอิ้งไปยังประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางการค้าและความท้าทายภายในทําให้ผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐฯ ไม่สามารถได้รับคําสั่งซื้อใหม่ที่สําคัญในจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
อีกทั้งการที่จีนระงับการซื้อเครื่องบินและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจากบริษัทสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากปักกิ่งเรียกเก็บภาษีตอบโต้ 125% กับสินค้าอเมริกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภาษีเหล่านี้จะเพิ่มต้นทุนของเครื่องบินและชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯ เป็นมากกว่าสองเท่า ทําให้สายการบินจีนไม่สามารถรับเครื่องบิน Boeing ต่อไปได้
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความตึงเครียดในสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา สองชาติเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลก
โดยจีนมุ่งหวังจะใช้มาตรการนี้กดดันภาคอุตสาหกรรมการบินของสหรัฐฯ ซึ่งโบอิ้งถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่พึ่งพาตลาดจีนอย่างมาก
ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีนหรือโบอิ้งเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว แต่แหล่งข่าวระบุว่าคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้แล้ว และอาจส่งผลกระทบต่อยอดส่งมอบเครื่องบินของโบอิ้งในปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ