นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบใบรับรองการขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรและมอบใบรับรองการจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร และตรวจเยี่ยมโครงการ “พาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ทั่วไทย” Lot 21 ณ ที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา ว่า ตั้งแต่มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ได้ทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์มากที่สุด ทำเม็ดเงินเข้ากระเป๋าพี่น้องไปแล้ว 3 ปีกว่า ราคาพืชผลการเกษตรดีเกือบทุกตัว ยางพารา ราคาดีขึ้นจากสมัยก่อน ขี้ยางเคยขึ้นไปถึง 23-30 บาท/กิโลกรัม (กก.) ตอนนี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 20 บาท ดีกว่าสมัยก่อนมาก ซึ่งอยากให้ขึ้นมากกว่านี้ เอาไปทำยางรถยนต์และถุงมือยาง
ก่อนหน้านี้ที่โควิด-19 ทำให้ความต้องการถุงมือยางมากขึ้น ราคาน้ำยางขึ้น วันนี้โควิด-19 ดีขึ้น ราคายางจึงลดลง แต่อีกช่วงราคาจะปรับขึ้นโดยเฉพาะยางแผ่นกับขี้ยางที่เอาไปทำยางรถยนต์ ที่ราคาตกช่วงนี้ เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันและแก๊สธรรมชาติสูงขึ้น และรถยนต์ที่ต้องใช้เซมิคอนดักเตอร์ ตัวเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนจากปัญหาจีนและไต้หวัน รถยนต์ผลิตได้น้อยไปด้วย ยางรถยนต์จึงขายได้ลดลง แต่เราเข้าไปดูแลตลอด ปลายปีถึงต้นปีราคายางมีโอกาสขยับดีขึ้น
ทั้งนี้ ถ้าวันไหนราคายางตก มีประกันรายได้เกษตรกร เป็นหลักประกันให้พี่น้อง ขี้ยาง 23 บาท/กก. น้ำยางข้น 57 บาท/กก. ยางแผ่นดิบ 60 บาท/กก. ถ้าต่ำกว่ารายได้ที่ประกันก็จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยตรง ส่วนปาล์มน้ำมันสมัยก่อนราคาตกตลอด เพราะมีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนจึงห้ามนำเข้าปาล์มทางบก
และส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาล์ม ปรับการใช้น้ำมัน B5 เป็น B7 และ B10 แต่ตอนหลังราคาปาล์มสูงมาก 12 บาท/กก. จึงต้องยกเลิก และอินโดนีเซียส่งเสริมการส่งออก ขณะนี้ราคาปาล์มเฉลี่ย 6-8 บาท/กก. ตอนนี้ตนเสนอเข้าที่ประชุมให้ปรับจาก B5 เป็น B7 ให้ราคาปาล์มขยับขึ้น แต่ถ้าวันไหนราคาปาล์มต่ำกว่ารายได้ที่ประกัน ก็จะมีประกันรายได้ โดยประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน 4 บาท/กก.
“เฉพาะพังงา ตั้งแต่ผมเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยยางพารา จังหวัดพังงามีเกษตรกร 23,000 ราย ช่วง 3 ปี ได้รับเงินชดเชยเป็นเงิน 560 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 24,565 บาท ปาล์มน้ำมันช่วงหลังราคาดี ไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่าง มี 15,000 ครัวเรือนจ่ายเงินส่วนต่างรวม 300 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 19,500 บาท กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ทำเม็ดเงินเข้ากระเป๋าพี่น้องโดยตรง”
นอกจากนี้ วันนี้มีโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน มาบริการพี่น้อง 3 วัน กว่า 100 คูหา สินค้าที่มาลดราคาสูงสุดถึง 60% มีทั้งหมูกิโลกรัมละ 150 บาท ไก่ 60 กว่าบาท/กก. น้ำมันพืชขวดละ 45 บาท ข้าวสารกิโลกรัมละ 10 กว่าบาท สินค้าชำระล้างร่างกายอีกมากมายให้จับจ่ายใช้สอย ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้พี่น้องคนพังงาได้ไม่น้อย