นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมครม.เห็นชอบโครงการประกันรายได้ข้าวปี 4 และเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ฤดูกาล 2565/2566 วงเงินรวมประมาณ 81,266 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ โดยแยกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า ในข้อสงสัยถึงกรอบวงเงินโครงการประกันรายได้ข้าวปี 4 แม้ที่ผ่านมา จะมีกรอบวงเงินงบประมาณรวมสูงถึง 1.5 แสนล้านบาท แต่ล่าสุดได้ปรับลดลงมาเหลือ 81,266 ล้านบาทนั้น ยอมรับว่า ที่ผ่านมาตัวเลขเดิมเป็นการคิดในกรณีที่มีการชดเชยส่วนต่างสูงสุด แต่ปัจจุบันราคาข้าวได้ปรับเพิ่มขึ้น จึงสามารถปรับลดลงมาให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ส่วนของการจ่ายเงินส่วนต่างจะเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรได้เมื่อใดนั้น ยอมรับว่า จะจ่ายเงินงวดแรกเข้าบัญชีเกษตรกร หลังจากคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เห็นชอบ ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 รวมไปถึงการจ่ายเงินไร่ละ 1,000 บาท รวมทั้งหมด 33 งวด
ทั้งนี้จากการประมาณการคาดว่าเงินงวดแรก จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรได้ประมาณวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565
สำหรับโครงการประกันรายได้ข้าวปี 4 กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้ ณ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% โดยชดเชยเป็นจำนวนตัน ในแต่ละชนิดข้าว ดังนี้
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การจัดสรรวงเงินงบประมาณ เบื้องต้นเป็นไปตามกรอบมาตรา 28 ของ พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561
โดยโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมาตรการคู่ขนานและโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 ได้ดำเนินการเช่นเดียวกับการดำเนินการตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้กล่าวในที่ประชุม ครม. ว่า เป้าหมายการส่งออกข้าวไทยในปีนี้จะสูงถึง 7.5 ล้านตัน ด้วย