นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยนติดอยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นกลุ่มดัชนีที่ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนหลายพันแห่ง และเคยได้อันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ในปี 2561 และปี 2562
ไทยยูเนี่ยน ได้รับคะแนนความยั่งยืนในมิติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยรวมที่ 100 เปอร์เซ็นต์ไทล์ ใน 18 หัวข้อ ได้แก่
ในขณะที่มิติด้านธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ ได้คะแนนที่ 97 เปอร์เซ็นต์ไทล์
เรื่องความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยน โดยมีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นทั้งในการดำเนินงานของไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และตลอดทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก
จากเป้าหมายองค์กรที่ต้องการ “สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คน และดูแลรักษาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล” ไทยยูเนี่ยนมีการดำเนินโครงการต่างๆ ที่สำคัญ ซึ่งไม่เพียงจะจัดการกับความท้าทายสำคัญที่อุตสาหกรรมกำลังเผชิญอยู่ แต่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพด้วย”
และเมื่อปีที่แล้ว ไทยยูเนี่ยนยังได้อันดับ 1 จากดัชนี Seafood Stewardship Index (SSI) ซึ่งต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยประเมินจากการดำเนินงานที่ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) โดยในปีที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนมีความก้าวหน้าในการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืนของบริษัท ดังนี้
นายอดัม เบรนนัน ผู้อำนวยการกลุ่มความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยน เตรียมพร้อมเดินหน้าเป้าหมายใหม่ โดยในช่วงต้นปี 2566 จะประกาศเป้าหมายการดำเนินงานใหม่ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange® จนถึงปี 2573 ซึ่งจะมีเป้าหมายที่ท้าทายหลายเรื่องเช่น เป้าหมายเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ตั้งอยู่บนหลักการ Science Based Targets Initiative
สำหรับ S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) จะทำการประเมินการทำงานด้านความยั่งยืนของบริษัทกว่า 10,000 แห่งทั่วโลกในแต่ละปี โดย CSA ช่วยให้บริษัทต่างๆ เช่น ไทยยูเนี่ยนสามารถวัดผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของอุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม และสังคมที่หลากหลาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อยๆ