นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เผยพร้อมก่อสร้างถนนเชื่อมด่านฯสะเดาแห่งใหม่-บูกิตกายูฮิตัม รอแค่งบประมาณเท่านั้น ชี้สาเหตุล่าช้าติดปัญหาที่ดินสปก.ขอค่าทดแทนอาสินสูงลิ่วไร่ละ10 ล้านบาท ต่อรองเหลือไร่ละ 5 ล้านบาทก็ยังสูง สุดท้ายปรับแนวใหม่ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เร่งรัดก่อสร้างแนวโค้งตามแนวชายแดน ความยาว 887.423 เมตร จํานวน 4 ช่องจราจร
นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สงขลา เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านฯสะเดาแห่งใหม่-บูกิตกายูฮิตัม ในฝั่งไทย ว่า โครงการนี้ล่าช้ามาเนื่องจากติดปัญหาที่ดินสปก. 10 แปลง 20 ไร่ที่ชาวบ้านครอบครองทำประโยชน์ จึงเรียกร้องค่าทดแทนอาสินในราคาสูงถึงไร่ละ 10 ล้านบาท ต่อรองแล้วให้ 5 ล้านบาท ซึ่งก็ยังสูงเกิน ทั้งที่เป็นที่ดินของรัฐให้เกษตรกรทำประโยชน์ แต่พอหน่วยงานรัฐจะนำมาพัฒนาก็ไม่ได้ ทั้งที่พร้อมให้เงินทดแทนที่เหมาะสม ซึ่งควรอยู่ที่ไร่ละ 1.5 ล้านบาท สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท สุดท้ายจึงเบี่ยงแนวเพื่อไม่ต้องไปกระทบที่ดินดังกล่าว ทำให้โครงการเดินหน้าต่อได้หลังจากเสียเวลามามาก
“ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการของบประมาณจากทางรัฐบาล โดยทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กำลังเร่งดำเนินการ โดยจะของบกลาง”
นายไพเจน กล่าวต่อว่า หวังว่าจะได้งบมาดำเนินการโดยเร็ว เพราะอาคารศุลกากรด่านสะเดาแห่งใหม่สร้างเสร็จมาหลายปี ยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้ ถนนเชื่อมก็ศึกษาออกแบบไว้หมดแล้ว เหลือแค่รองบประมาณอย่างเดียว ถ้าได้มาจะใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปีครึ่งก็พร้อมเปิดใช้งาน
ที่ผ่านมาเมื่อ 27 ก.พ. 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ได้มาเป็นประธานการประชุม กพต. ครั้งที่ 1/2566 และการตรวจติดตามการขับเคลื่อนงานตามมติ กพต. ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล จังหวัดสตูล
ที่ประชุมมีมติเร่งรัดโครงการ ถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย มติ กพต. ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ที่อนุมัติหลักการ โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย ความยาว 850 เมตร จํานวน 6 ช่องจราจร ถนนท้องถิ่น (Localroad) จํานวน 2 ช่องจราจร ทางลอดสูง 3 เมตร
โดยมอบหมายองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักดําเนินการ และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณสนับสนุน จํานวน 251.96 ล้านบาท หากไม่เพียงพอให้ใช้งบกลาง ของงบประมาณรายจ่ายปี 2565
สำนักงบประมาณเสนอให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยอบจ.สงขลา เจรจาตกลงค่าชดเชยสิ่งปลูกสร้างและผลอาสิน กับผู้ครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ตามกฎหมาย ระเบียบ รวมถึงคําสั่งที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจการอื่น ๆ ในเขตปฏิรูปที่ดิน ให้ถูกต้องครบถ้วนตามขั้นตอนที่กําหนด
ซึ่งจังหวัดสงขลาได้แต่งตั้งคณะกรรมการเจรจาต่อรองราคา การสูญเสียโอกาสในการใช้ประโยชน์ในที่ดินแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ จํานวน 8 ราย 9 แปลง จากที่เรียกร้องไร่ละ 10 ล้านบาท เหลือ 5 ล้านบาท รวมเป็นค่าชดเชย เนื้อที่จํานวน 21-3-87 ไร่ คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 278.23 ล้านบาท
จังหวัดสงขลาเห็นว่าราคายังสูงกว่าเกณฑ์วงเงินการจ่ายค่าชดเชยค่อนข้างมาก ไม่เกิดประโยชน์สูงสุดกับทางราชการ ศอ.บต. ในฐานะเลขานุการ กพต. พิจารณาแล้ว เห็นสมควรดําเนินการตามมติคณะทํางานจัดทําข้อเสนอ เพื่อเร่งรัดดําเนินการเปิดให้บริการและอํานวยความสะดวก ณ ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ที่มีผู้ว่าฯสงขลาเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งได้มีมติเห็นชอบถนนแนวใหม่ ที่ขอปรับแก้ไขแบบรายละเอียดใหม่โดยไม่กระทบแปลงที่ดินเกษตรกร โดยมีแนวโค้งตามแนวชายแดน ความยาว 887.423 เมตร จํานวน 4 ช่องจราจร และไหล่ทาง ไม่มีทางเท้า มีช่องทางแยกเข้าตลาดด่านนอก งบประมาณทั้งสิ้น 212.1785 ล้านบาทแทน
สมชาย สามารถ/รายงาน
หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,868 วันที่ 9-11 มีนาคม พ.ศ.2566