ตลาดไทจัดอบรม “คัดทุเรียนแบบเซียน" ตัดตอนทุเรียนอ่อนหลุดสู่ตลาด

18 เม.ย. 2566 | 11:20 น.
อัปเดตล่าสุด :18 เม.ย. 2566 | 11:20 น.

ตลาดไท ดึงผู้เชี่ยวชาญจัดอบรม “คัดทุเรียนแบบเซียน ทำกำไรได้งาม” ให้ผู้ประกอบการและพ่อค้า-แม่ค้าทุเรียน ป้องกันทุเรียนอ่อนและด้อยคุณภาพ หลุดไปถึงมือผู้บริโภค

ตลาดไท ขานรับนโยบาย "ปีทุเรียนไทยคุณภาพ" ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จับมือวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ จัดอบรม     “คัดทุเรียนแบบเซียน ทำกำไรได้งาม” ให้ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้าที่มีความสนใจ ร่วมเจาะลึกเทคนิคการคัด ตัด และปอกทุเรียนอย่างมืออาชีพ เพื่อป้องกันทุเรียนอ่อนและด้อยคุณภาพ ก่อนกระจายผลผลิตสู่ผู้บริโภค

ตลาดไท หนุนทุเรียนคุณภาพออกสู่ตลาด

ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกทุเรียนรายใหญ่ทั้งด้านปริมาณและมูลค่าในอันดับ 1 ของโลก โดยปี 2564 ทุเรียนไทยมีมูลค่าส่งออกสูงถึง 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวของการส่งออกสูงถึง 68%
ในปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศนโยบายให้เป็นปีทุเรียนไทยคุณภาพ มีการบูรณาการจากหน่วยงานหลายภาคส่วนในการรณรงค์ ควบคุม ป้องกันทุเรียนอ่อนและทุเรียนด้อยคุณภาพเข้าสู่ตลาด โดยสร้างมาตรฐานให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องตลอด Supply Chain ด้วยมาตรการตรวจก่อนตัด กำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน

บวกกับการประกาศวันเก็บเกี่ยวทุเรียน ภาคตะวันออกประจำปี 2566 ที่ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแก่เกษตรกร ผู้ซื้อ และผู้ขาย พร้อมกับการสร้างองค์ความรู้ในการคัดทุเรียนให้แก่พ่อค้าแม่ค้าเพื่อลดการซื้อทุเรียนอ่อน ลดการขาดทุนจากปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่น ตอกย้ำสร้างความมั่นใจในคุณภาพของทุเรียนให้แก่ผู้บริโภคทั้งตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ  


นายโชคชัย คลศรีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด ผู้บริหาร ตลาดไท เปิดเผยว่า ตลาดไทเป็นตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ช่วงเทศกาลผลไม้ตามฤดูกาลที่สำคัญของปีคือ เทศกาลทุเรียน จะมีสินค้ามาที่ตลาดไทหลายหมื่นตันต่อปี การจัดอบรมคัดทุเรียนแบบเซียนมีวัตถุประสงค์หลักคือการสร้างอาชีพ

"เราต้องการให้คนที่อยู่ในซัพพลายเชนทั้งหมด ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูก ไปจนถึงผู้ขาย ไม่ว่าจะขายปลีกหรือส่ง มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับทุเรียน ให้พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการขายทุเรียน เข้ามาเรียนรู้ถึงกระบวนการการคัดทุเรียน มาที่ตลาดไทแล้วควรเลือกทุเรียนแบบไหนไปขาย ขายให้ใคร ขายอย่างไรจึงจะได้กำไร ซึ่งเป็นประโยชน์มากต่อผู้เข้ารับการอบรมซึ่งมีทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายส่ง ขายกึ่งส่งกึ่งปลีก และขายปลีก การที่พ่อค้าแม่ค้ามีองค์ความรู้อย่างแท้จริง จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคที่ซื้อทุเรียนไปรับประทานว่าทุกคนจะได้ทุเรียนที่มีคุณภาพ มีรสชาติอร่อยหอมหวานมันถูกใจ”

 

ดร. พีรพงษ์ แสงวนางค์กูล ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว ศูนย์เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้ย้ำความสำคัญของการเข้าใจในเรื่องสรีรวิทยาการสุกแก่ของทุเรียนให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมว่า ทุเรียนที่ตัดเมื่อแก่ได้ที่ หรือมีอายุการเก็บกี่ยว 110-120 วัน นับจากดอกบาน นับเป็นทุเรียนคุณภาพ เมื่อสุกแล้วจะหวานหอมมันเป็นเนื้อครีมที่มอบความรื่นรมย์ทั้งรสชาติและรสสัมผัสให้แก่ผู้บริโภค ในขณะที่ทุเรียนอ่อนหรือตัดก่อนแก่จะใช้เวลาสุกช้ากว่าและมีรสชาติที่ไม่หวานหอมเท่าที่ควร ดังนั้นทุเรียนคุณภาพสามารถทำกำไรได้ดีเพราะนอกจากจะขายได้ราคาดีกว่าแล้ว เมื่อลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นว่าสามารถซื้อทุเรียนที่อร่อย มีคุณภาพ จะนำไปสู่การซื้อซ้ำของผู้บริโภคและการขายในระยะยาวทุกปี

 

นายชลธี นุ่มหนู แกนนำเครือข่ายพิทักษ์ทุเรียนไทย/ผู้ก่อตั้งองค์กรเครือข่ายทุเรียนไทย เปิดเผยถึงหลัก 5 ด. ในการตัดและคัดเลือกทุเรียน ให้ได้คุณภาพไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

ดู – การดูลักษณะภายนอก สีผิว เปลือกแห้ง ฐานหนามแผ่ออก ปลายหนามแห้งเปราะ ร่องหนามเป็นสีน้ำตาล ขั้วผลสาก ปลิงบวมโต ก้านผลแข็ง

ดีด – การเคาะฟังเสียง ทุเรียนที่ตัดตอนแก่และสุก จะมีโพรงอากาศระหว่างเนื้อและเปลือกให้เสียงที่ก้องกังวานกว่าทุเรียนอ่อนและห่าม ที่เนื้อจะติดเปลือก       

ดูด – ในการตัดทุเรียนหน้าสวน จะมีน้ำเลี้ยงที่ปลิง ซึ่งถ้าชิมแล้วมีรสหวาน หมายถึงทุเรียนแก่พร้อมตัด

ดม – ทุเรียนที่แก่ได้ที่จะมีกลิ่นหอมออกมา

การรับประทาน – จะช่วยให้ทราบถึงรสชาติที่แท้จริงของทุเรียนได้

 

ด้าน นายประสาทพร ศรีสกุลเดช เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนมืออาชีพ เผย เทคนิค เคล็ดลับการตัดและคัดเลือกทุเรียนเพื่อไปจำหน่ายให้ได้ราคาและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดว่า “การตัดและคัดทุเรียนที่แก่ได้ที่ จะทำให้ลดปัจจัยลบที่มีต่อทุเรียนด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ปัจจุบัน ผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ส่วนใหญ่ต้องการทานทุเรียนแบบที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องลงมือปอกเอง ดังนั้นทุเรียนคัดคุณภาพที่ผ่านการตัดแต่ง โดยชั่งขายแต่เนื้อ จึงสามารถเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้นกว่าเท่าตัว ผู้ขายที่คัดทุเรียนได้ดี ตรงกับความต้องการของลูกค้า เปรียบเสมือนมีต้นทุนด้านความเชื่อมั่นของลูกค้าอยู่แล้ว หากสามารถบริการปอกหรือขายแต่เนื้อทุเรียน จะเป็นการอำนวยความสะดวกและเพิ่มกำไรได้อย่างงาม