นายจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังจากลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณปุ๋ย ยากำจัดศัตรูพืชหรือโรคพืช ณ สหกรณ์การเกษตรบ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี และสหกรณ์ชาวไร่สับปะรดสามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ หารือกับผู้บริหารสหกรณ์และตัวแทนเกษตรกรเพาะปลูกสับปะรด
พบว่าราคาปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีการใช้ปุ๋ยมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยจะเริ่มใช้มากเมื่อเข้าฤดูฝนตั้งแต่เดือน พ.ค. 66 เป็นต้นไป เนื่องจากปุ๋ยมีราคาลดลงมาพอสมควรแล้วเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก นอกจากนี้ผลผลิตสับปะรดยังมีราคาที่ดีและเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศมาก ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ปัตตาเวียที่มักส่งเข้าโรงงานแปรรูป พันธุ์ MD2 หรือพันธุ์หอมสุวรรณ ที่นิยมรับประทานสดเพราะมีรสหวาน มีกลิ่นหอม
สำหรับปริมาณปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชมีเพียงพอแน่นอน และหากเกษตรกรต้องการที่จะรวมยอดกันสั่งซื้อปุ๋ยจากโรงงานโดยตรงในนามของสถาบันหรือกลุ่มเกษตรกรก็สามารถทำได้ ตามแนวคิด “จับคู่ปุ๋ย ซื้อตรง ถูกเงิน-ถูกใจ” ที่กรมการค้าภายในได้ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร และสมาคมปุ๋ยต่างๆ ประชาสัมพันธ์ช่องทางให้เกษตรกรทราบทางเว็บไซต์กรมการค้าภายใน (www.dit.go.th) ซึ่งจะช่วยให้สามารถประหยัดต้นทุนค่าปุ๋ยลงได้อีก
การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้นำเจ้าหน้าที่สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 0-6 (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์) ตรวจสอบตรวจสอบเครื่องชั่งรถยนต์ที่ใช้บรรทุกสินค้าเกษตรมาขาย ณ บริษัท สามร้อยยอด จำกัด จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่าเครื่องชั่งรถยนต์มีความเที่ยงตรง จึงได้ติดสติ๊กเกอร์ของกรมการค้าภายในว่าเป็นเครื่องชั่งที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตรทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งปิดป้ายแสดงราคารับซื้อสินค้าเกษตรให้ชัดเจน หากไม่ปฏิบัติตาม จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากมีการดัดแปลงและใช้เครื่องชั่งตวงวัดเพื่อเอาเปรียบเกษตรกร จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 280,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ