ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat อัพเดทสถาการณ์เอลนีโญว่า จากที่เพิ่งมีโอกาสคุยกับ ดร.ชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการ และผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ Team Group และนายกสมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย และ ดร.วิษณุ อรรถวานิช สองผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ในรายการของนายสุทธิชัย หยุ่น
จึงอยากสรุปสถานการณ์ให้ทราบว่า เอลนีโญเริ่มต้นแล้ว และจะลากยาวไปอย่างน้อยถึงต้นปีหน้า ซึ่งแบบจำลองทำนายให้แม่นยำได้ประมาณนั้น หลังจากนั้นยังบอกไม่ได้ หน้าฝนของภาคเหนือ กลาง อีสานมี 2 ช่วง เวลานี้ผ่านช่วงแรกไปแล้ว ฝนน้อยกว่าปกติประมาณ 20% ฝนจะทิ้งช่วงกลับมาอีกทีกลางสิงหาคม ต้นทุนน้ำก่อนเข้าหน้าฝน มีน้ำในเขื่อน/ระบบชลประทาน 35% เนื่องจากฝนช่วงแรกน้อย การเก็บน้ำจึงไม่ได้มาก ต้นทุนน้ำตอนนี้จึงน่าเป็นห่วง
ทั้งนี้ ขึ้นกับฝนช่วงสองว่าจะทำได้แค่ไหน ยังขึ้นกับการปรับตัวของภาคเกษตร ที่จะใช้น้ำแบบเดิมไม่ได้ อย่าให้ความเคยชินใน 2-3 ปีก่อนมาลวงตา พื้นที่เกษตรของไทยค่อนหนึ่งอยู่นอกพื้นที่ชลประทาน ซึ่งตรงนั้นยิ่งมีน้ำน้อยเข้าไปใหญ่ ผลผลิตการเกษตรจะลดลง เช่น ข้าว อ้อย ทุกฝ่ายออกมาเตือนเรื่องการใช้น้ำในภาคการเกษตร ผลกระทบทั่วอาเซียน อินโดนีเซียอาจโดนหนัก เวียดนามก็ลำบาก เพราะน้ำเค็มหนุนส่งผลเยอะมากในพื้นที่ปลูกข้าวปากน้ำโขง
คาดการณ์จากเอลนีโญในอดีตว่า รายได้เกษตรกรไทยอาจลดลง 5% (เปลี่ยนแปลงได้ขึ้นกับว่าแรงแค่ไหนและการรับมือว่าทำแค่ไหน) นอกจากนี้ยังมีผลกระทบในด้านอื่น ๆ ยังมีอีกมาก เช่น ไฟป่า/ฝุ่น ฤดูฝุ่นปีนี้จะยาวนานและแรงกว่าปีก่อน ยังรวมถึงฝุ่นจากไฟป่าข้ามพรมแดนจากอินโดที่ต้องตามดูในภาคใต้ ปีนี้อาจรุนแรง สิงคโปร์เริ่มเตือนพลเมืองแล้ว (ไฟอินโดอินเซียจะเริ่มช่วงกลางปี)
"เอลนีโญ" แรงตั้งแต่กันยายนไปจนถึงต้นปีหน้า เป็นช่วงหน้าฝนภาคใต้ หลายคนจึงออกมาเตือนว่าภาคใต้ต้องระวังเรื่องน้ำให้ดีเพราะฝนปีนี้อาจน้อย เพื่อนธรณ์ที่ทำงานโรงแรม/ภาคบริการหรือกิจการอื่น ๆ ที่ต้องการน้ำมาก ให้มองทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้าด้วย น้ำอาจหายาก/แพง กรณีแย่สุดคือเจอดับเบิ้ลเอลนีโญ ต่อเนื่องจากปีนี้ถึงปี 68
อันนั้นจะแย่จริงเพราะปีนี้เรายังมีต้นทุนน้ำจากปีที่แล้ว (ลานีญา) แต่ปีนี้แล้ง ปีหน้าแล้งซ้ำ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครยืนยันสถานการณ์นั้นในตอนนี้ได้ เพราะไกลไปเกินทำนายในทะเลเริ่มเห็นชัดแล้ว จากปะการังฟอกขาว น้ำเปลี่ยนสีต่อเนื่องถึงช่วงนี้ ที่น่าเป็นห่วงคือปีหน้าจะเป็นอย่างไร หากเกิด "ดับเบิ้ลเอลนีโญ" ทะเลเดือดร้อนหนักแน่ ๆ
คำแนะนำสำหรับเพื่อนธรณ์คือติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด น้ำน้อย/น้ำเค็มหนุน/ฝุ่นเยอะ/อากาศร้อน/ทะเลร้อน คือสิ่งที่ต้องเตรียมตัวรับมือไว้ การเยียวยาจากภาครัฐอาจมีบ้าง แต่ผลกระทบจากเอลนีโญคือเหนือจรดใต้ไปถึงทะเล จะเยียวยาไหวไหม ? สิ่งที่เรากำลังจะเจอ ไม่เหมือนที่เคยเกิดมา เพราะเรามีโลกร้อนมาหนุน
WMO เรียกปรากฏการณ์แบบนี้ว่า Double Whammy เป็นสิ่งที่เราจะเผชิญต่อไป ทั้งเอลนีโญและลานีญา ในภาวะโลกร้อนเพิ่มขึ้นทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่ารัฐบาลต้องเร่งยกระดับประเด็นนี้ และหาทางรับมืออย่างจริงจัง ใช้งบประมาณให้ถูกจุดเพื่อการวางแผนรับมือในระยะต่าง ๆ นอกจากรับมือกับปีนี้ จะได้ปรับตัวเตรียมรับมือกับระยะต่อ ๆ ไปที่ในอนาคตเราจะเจออีกปีนี้หรือปีหน้า อุณหภูมิโลกจะร้อนทำลายสถิติเดิม
"เศร้าแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ถึงตอนนี้สิ่งที่ทำได้นอกจากลด GHG เพื่อลูกหลาน เราคงต้องหาทางดีที่สุดเพื่อตัวเอง บททดสอบแรกมาถึงแล้วครับ"