นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า จากที่ สมอ.ได้จนเปิดรับข้อร้องเรียนจากผู้บริโภคกรณีสินค้าไม่ได้มาตรฐานผ่านทางออนไลน์ทุกช่องทาง พบว่ามีข้อร้องเรียนจากการซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก และจากการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 - มิถุนายน 2566 สมอ.ได้ยึดอายัดสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งจากการนำเข้า ผลิต และจำหน่าย เป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 52,202,410 บาท
โดยสินค้าที่มีการยึดอายัดสูงสุด ได้แก่ สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มูลค่า 24,397,974 บาท เป็นการยึดอายัดจากแพลตฟอร์มออนไลน์มากที่สุด มีมูลค่าสูงถึง 10,627,043 บาท รองลงมาเป็นสินค้ากลุ่มยานยนต์มูลค่า 9,456,498 บาท กลุ่มพลาสติกมูลค่า 7,668,421 บาท กลุ่มเหล็กมูลค่า 4,305,684 บาท กลุ่มเครื่องมือแพทย์มูลค่า 3,024,845 บาท กลุ่มวัสดุก่อสร้างมูลค่า 2,579,135 บาท และกลุ่มโภคภัณฑ์มูลค่า 769,853 บาท ตามลำดับ
“เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ สมอ. ยึดอายัดมาจากแพลตฟอร์มออนไลน์ ส่วนใหญ่เป็นโคมไฟ หลอดไฟ ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม พัดลม หม้อหุงข้าว และเตารีด เป็นต้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่ สมอ. ควบคุมเพื่อความปลอดภัยของประชาชน หากไม่ได้มาตรฐานเมื่อนำไปใช้งานอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ จึงขอฝากถึงผู้บริโภคให้เลือกซื้อที่มีเครื่องหมายมาตรฐาน มอก.รับรอง คู่กับ QR Code ที่ยืนยันข้อมูลผู้ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องเท่านั้น ซึ่งประชาชนสามารถสแกน QR Code เพื่อร้องเรียนต่อ สมอ. ในกรณีที่สงสัยว่าสินค้านั้นอาจไม่ได้มาตรฐาน”
สำหรับผู้ประกอบการ หาก สมอ. ตรวจพบว่ามีการลักลอบทำหรือนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ถือว่ามีความตั้งใจที่จะทำหรือนำเข้าสินค้าที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สมอ. จะดำเนินการอย่างถึงที่สุด โดยบทลงโทษสำหรับผู้ทำหรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีมีไว้เพื่อจำหน่าย จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอเตือนไปยังผู้ประกอบการทั้งผู้ทำและผู้นำเข้า แม้จะได้รับใบอนุญาตทำหรือนำเข้าจาก สมอ. แล้วก็ตาม สมอ. ยังคงตรวจติดตามคุณภาพของสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดและทางออนไลน์อย่างเข้มงวดและสม่ำเสมอ หากพบไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จะดำเนินการตามกฎหมายและเพิกถอนใบอนุญาตทันที