นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้เตรียมมาตรการรับมือผลผลิตสับปะรดเชียงรายปี 2566 ที่กำลังจะออกสู่ตลาดไว้พร้อมแล้ว โดยจะใช้ อมก๋อย โมเดลประสานผู้ประกอบการ ได้แก่ ผู้แปรรูป ผู้ส่งออก ผู้รวบรวม ห้างค้าส่งค้าปลีก เข้าไปรับซื้อปริมาณ 15,000 ตัน ในราคานำตลาด แยกเป็นสับปะรดภูแล ปริมาณ 10,500 ตัน และสับปะรดปัตตาเวีย 4,500 ตัน เพื่อสร้างหลักประกันให้กับเกษตรกรว่าผลผลิตที่ออกมา จะมีที่จำหน่าย และช่วยให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กรมยังมีมาตรการเสริมเพิ่มเติม โดยจะเชื่อมโยงสับปะรดไปแปรรูปเป็นน้ำสับปะรดบรรจุขวด ปริมาณ 1,000 ตัน เพื่อผลิตเป็นน้ำสับปะรด 1 ล้านขวด โดยมีบริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้ามาช่วยแปรรูป และจะนำไปจำหน่ายผ่านห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ ในราคาขวดละ 12 บาท ซึ่งได้เปิดตัวจัดส่งไปจำหน่ายร่วมกับวัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงรายไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา และจากนี้ จะทยอยผลิตและจัดส่งไปจำหน่ายต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน จะร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมัน ได้แก่ PT , PTT Station และบางจาก จำนวน 1,201 สาขาทั่วประเทศ รับซื้อสับปะรดปริมาณ 500 ตัน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เข้ามาเติมน้ำมันในปั๊ม และจะรับซื้อสับปะรด จำนวน 1,000 ตัน ไปจำหน่ายผ่านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 7 ราย ได้แก่ แสนสิริ , เอพี , ศุภาลัย , MQDC , เสนา , Asset Wise และไอริส ที่ได้ร่วมมือกับกรมเปิดพื้นที่ให้นำผลไม้ไปจำหน่ายให้กับลูกบ้านในหมู่บ้าน 66 แห่ง และคอนโดมิเนียม 35 แห่ง รวม 52,055 ครัวเรือน
“มั่นใจว่ามาตรการดูแลสับปะรดที่จะเข้าไปรับซื้อสับปะรดจากเกษตรกร รวมทั้งหมด 17,500 ตัน จะช่วยเร่งระบายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตได้อย่างรวดเร็ว และผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นได้ตลอดทั้งฤดูกาลผลิต ซึ่งขณะนี้ กรมได้เริ่มเดินหน้ามาตรการ ผู้ประกอบการที่ร่วมมือกับกรม ได้เตรียมลงพื้นที่เข้าไปรับซื้อแล้ว”
ปี 2566 คาดการณ์ผลผลิตสับปะรดเชียงราย อยู่ที่ 121,632 ตัน ลดลง 1.79% เป็นสับปะรดปัตตาเวีย 47,820 ตัน ลดลง 4.38% สับปะรดภูแล 67,842 ตัน เพิ่ม 0.17% และสับปะรดนางแล 5,970 ตัน ลดลง 2.45% โดยขณะนี้ผลผลิตภาพรวมออกสู่แล้ว 60% โดยราคาสับปะรดภูแล เกรดคัดกิโลกรัม (กก.) ละ 15 บาท ตกเกรด กก.ละ 8-10 บาท สับปะรดปัตตาเวีย กก.ละ 6-10 บาท