สมาคมประมงฯ แฉแผนล้มกฎหมายประมง โต้เอ็นจีโอ อย่าบิดเบือน

นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ถึงข้อกังวลของนายนัฐวุฒิ กาเซ็ม ผู้แทนมูลนิธิความยุติธรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation: EJF) ประจำประเทศไทย  3 ประเด็นได้แก่ 1. รื้อฟื้นการขนถ่ายสัตว์น้ำกลางทะเล: มาตรา 85/1 และ มาตรา 87 นั้น เนื่องจากเรือประมงไทยที่ทำการประมงภายในน่านน้ำไทย (ไม่เกี่ยวกับเรือประมงนอกน่านน้ำที่เคยมีปัญหาการขนถ่ายสัตว์น้ำโดยไม่มีการควบคุม) การแก้ไขเพื่อให้ขนถ่ายได้โดยเรือประมง แต่ต้องจดทะเบียนขนถ่ายกับกรมประมงไม่ใช่ขนถ่ายกันโดยเสรีและมีมาตรการก่อนที่จะมีการขนถ่ายจะต้องแจ้งการที่จะขนถ่ายกับทางเจ้าหน้าที่PIPOก่อนทุกครั้ง และต้องแนบเอกสารล็อคบุ๊ค จำนวนสัตว์น้ำมากับเรือประมงที่ขนถ่ายด้วยว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เมื่อมาถึงท่าเทียบเรือประมงจะต้องถูกเจ้าหน้าที่PIPOตรวจอย่างเข้มข้นมากกว่าเรือประมงที่เข้ามาปกติ

ส่วนในเรื่องที่ 2 เรื่องการฝากแรงงานไปกับเรือประมงได้ เป็นเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กลับแรงงานที่ต้องการทำงานจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอการลงเรือประมงนานหลายวันกว่าเรือประมงจะถึงรอบกลับเข้าฝั่งแรงงานที่จะฝากได้จะต้องเป็นแรงงานที่ถูกกฎหมายและจะต้องแจ้งเจ้าหน้าPIPOก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันการขนถ่ายแรงงานแบบไม่ถูกต้องจึงจำเป็นต้องมีช่องทางให้สามารถกระทำได้โดยถูกต้องตามกฎหมายและมีมาตรการการตรวจสอบ โดยก่อนจะมีการฝากแรงงานไปกับเรือประมงจะต้องมีการตรวจสอบแรงงานจากเจ้าหน้าที่PIPO ก่อนทุกครั้งและกรณีการฝากแรงงานกลับเข้าฝั่งก็ต้องมีการตรวจสอบอยู่แล้วเพราะถ้าแรงงานที่แจ้งออกไปไม่ครบจะมีโทษปรับที่รุนแรงดังนั้นไม่น่าจะเป็นการสร้างปัญหาอย่างที่ EJF จิตนาการไปเอง

นายมงคล กล่าว  เรื่องที่3 ที่ EJF กังวลเป็นเรื่องการแจ้งบัญชีรายชื่อแรงงาน ตามมาตรา 82  นั้น  ก็เพราะ “EJF” ไม่ศึกษากฎหมายให้ครบถ้วนก่อนเรือประมงภายในประเทศยังต้องมีการแจ้งบัญชีรายชื่อแรงงานที่ไปกับเรือประมงทุกครั้งตามปกติ ตามกฎหมายของกรมเจ้าท่า ที่ต้องแจ้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ มาตรา285 ไม่ใช่ไม่มีการแจ้งอย่างที่ EJF เข้าใจ แต่เป็นการตัดปัญหาซ้ำซ้อนของกฎหมายของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงที่มีกฎหมายอยู่แล้วและแจ้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยตรวจสอบได้ตลอดเวลา

แต่ในส่วนของเรือประมงนอกน่านน้ำที่เรือประมงไปแต่ละครั้งใช้เวลานานกว่าเรือประมงภายในประเทศจึงจำเป็นต้องมีการตรวจแรงงานทุกครั้งก่อนที่จะมีการออกไปทำการประมงยังต่างประเทศหรือยังน่านน้ำสากล ในส่วนกฎหมายมาตรา83  กรณี “คนไทย”ก็ใช้กฎหมายของกรมเจ้าท่ากล่าวคือกรณีเรือประมงภายในประเทศที่ใช้”แรงงานไทย“ก็ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนของแรงงานก็เพียงพออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปทำเอกสารซีเมนต์บุ็คให้มันซ้ำซ้อน ยุ่งยากและผิดวัตถุประสงค์ของการออกหนังสือซีเมนต์บุ็ค อีกด้วย

กรณี “คนไทย” ที่ไปกับเรือประมงนอกน่านน้ำยังต้องมีการทำหนังสือซีเมนต์บุ็คตามกฎหมายกรมเจ้าท่า เพราะการใช้หนังสือซีเมนต์บุ็ค มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบันทึกประสบการณ์การทำงานในเรือ และใช้ทดแทนเอกสารพาสปอร์ตกรณีที่แรงงานไปตกเรืออยู่ยังต่างประเทศในส่วนของร่างกฎหมายของครม.แรงงานต่างด้าวตามมาตรา83ยังต้องมีหนังสือคนประจำเรือ(ซีบุ๊ค)ตามเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง EJF อย่าจินตนาการ เกินไปไม่มีข้อไหนขัดกับหลักการอนุสัญญาC188 เลย

นายมงคล กล่าวว่า  ปัจจุบันกระบวนการเสนอร่างกฎหมายโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยได้มีการเสนอร่างพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมพรก.ประมง 2558 พ.ศ.......เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏร ตามกระบวนการระบอบประชาธิปไตย ของประเทศไทย โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 413 เสียงเห็นชอบโดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน หรือ งดออกเสียง ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ของผู้แทนปวงชนชาวไทยทั้งประเทศที่ได้เห็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะชาวประมงและผู้ประกอบการต่อเนื่องต่างๆในวงกว้าง ที่ได้รับผลกระทบจากการออกกฎหมาย พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 มาบังคับใช้ โดยไม่ได้มีการรับฟังเสียงของประชาชนที่เกี่ยวข้อง จึงทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างในแต่ละปีมีมูลค่าสูงมากไม่น้อยกว่าปีละ 2 แสนล้านบาท

“ทำให้ประชาชนต้องตกทุกข์ได้ยาก หมดเนื้อหมดตัว หมดอาชีพไป  นับหมื่นครอบครัวล่มสลาย บ้าน รถ ที่ดิน ทรัพย์สินต่างต้องถูกเจ้าหนี้ยึด ลูกต้องออกจากโรงเรียน เจ็บป่วยไม่มีเงินรักษา ทำในเกิดปัญหาสังคมในวงกว้าง ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้ ที่ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ลงพื้นที่ในการรับฟังปัญหาจากประชาชนทุกๆจังหวัดได้เห็นสภาพปัญหาแล้วเมื่อได้รับการเลือกตั้งเข้ามาจึงต้องทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยได้มีการเสนอกฎหมายร่างพรบ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.ประมง 2558 พ.ศ.....เข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมาจนมาถึงรัฐบาลปัจจุบันถือว่าเป็นการทำหน้าที่ของผู้แทนปวงชนชาวไทยตามระบบประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ แล้ว”

นายมงคล กล่าวว่า มีกลุ่มเอ็นจีโอทั้งภายในประเทศและภาคนอกประเทศ ที่พยายามบิดเบือนการเสนอร่างพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมพรก.ประมง 2558 พ.ศ.....ทั้งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านโดยการออกสื่อต่างๆและได้ทำหนังสือไปยังรัฐบาลไทย รวมทั้งองค์กรต่างๆในต่างประเทศในการบิดเบือนการแก้ไขกฎหมาย ให้ร้ายชาวประมงไทย รวมทั้งบิดเบือนว่าการเสนอร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าวว่าจะทำให้การแก้ไขปัญหาIUUจะกลับมาถอยหลังลงไปอีก ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย

ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องกระบวนการประชาธิปไตยของประเทศไทย ไม่ให้มีการแทรกแซงจากต่างประเทศ รวมทั้งเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของสมาชิกสมาคมประมง องค์กรประมง  ในทุกๆจังหวัดสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยจึงขอสมาชิกทุกองค์กรช่วยทำหนังสือสนับสนุนหรือจะคัดค้านการเสนอร่างพรบ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การ.ประมง2558  พ.ศ.....ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย

โดยส่งมาที่สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย และส่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในทุกจังหวัด ให้ช่วยส่งให้กับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมพรก.ประมง พ.ศ.....ของสภาผู้แทนราษฏร ด้วย เพื่อสนองนโยบายร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐบาลไทย ที่จะแก้ไขกฎหมายเพื่อทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นจ้าวสมุทรอีกครั้ง