จากกรณีที่ รัฐบาล ปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 400 บาท ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ล่าสุด นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ต้องรอความชัดเจนของผู้บริหารแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะร่วมกันพิจารณาความเหมาะสมของอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ดังนั้นคงต้องรอให้เรื่องนี้มีความชัดเจนออกมาก่อน ยอมรับว่าค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นย่อมมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าบ้าง แต่โดยรวมต้องดูว่าต้นทุนด้านแรงงานมีผลกระทบต่อต้นทุนของสินค้ามากน้อยแค่ไหน หากวิเคราะห์อออกมาแล้วแม้ค่าแรงขึ้นกระทบต้นทุนสินค้าไม่มากก็อาจจะขอความร่วมมือให้ช่วยตรึงสินค้าไปก่อน และยังไม่มีผู้ประกอบรายใดยื่นขอปรับราคาสินค้าขึ้นมายังกรมการค้าภายใน
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบต้นทุนมากน่าจะอยู่ที่อุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าและกลุ่มอื่นๆบ้าง แต่ยังเชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะใช้วิธีปรับภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านต่างๆลดลงก่อนแทนการปรับขึ้นสินค้า เพราะด้วยการแข่งขันในตลาดมีสูงการปรับสินค้าน่าจะเป็นวิธีสุดท้าย หากปรับขึ้นสินค้าทันทีจะทำให้มีผลต่อการแข่งขันทางการค้าได้ แต่ทุกด้านกรมการค้าภายในมีแผนรองรับและเตรียมการไว้อยู่แล้วจะไม่ทำให้ประชาชนต้องรับภาระสินค้าแพงเกินจริง
อย่างไรก็ตาม ทางกรมการค้าภายในมีมาตรการที่ใช้ควบคุมราคาสินค้าอยู่ 2 มาตรการคือ