“นฤมล“โชว์วิสัยทัศน์เวที SPIEF ย้ำไทยขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ

06 มิ.ย. 2567 | 10:19 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มิ.ย. 2567 | 10:41 น.

“นฤมล“โชว์วิสัยทัศน์บนเวที SPIEF ย้ำไทยขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เดินหน้าผลักดันให้ไทย “เป็นครัวสีเขียวของโลกและศูนย์กลางเศรษฐกิจชีวภาพของเอเชีย”

วันนี้ (6 มิ.ย.67) เวลา 11.00 น. (เวลาตามท้องถิ่น นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมาย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เข้าร่วมการประชุม St. Petersburg International Economic Forum (SPIEF) ครั้งที่ 27 ซึ่งมีผู้แทนกว่า 130 ประเทศ เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์การประชุม Ekspoforum นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย 

โอกาสนี้ ผู้แทนการค้าไทยได้ร่วมอภิปรายในการประชุม Ecological Horizons 2030: Investing in Circular Economy ภายใต้หัวข้อ “Investing in Circular Economy” ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยได้นำแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) มาใช้เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นการผสมผสานแนวทางการพัฒนาที่ครอบคลุมทั้งด้านสังคมและการบูรณาการเศรษฐกิจ 

โดยปรับเปลี่ยนและประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่นของไทย เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร เปลี่ยนขยะให้เป็นความมั่งคั่ง ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

                       “นฤมล“โชว์วิสัยทัศน์เวที SPIEF ย้ำไทยขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ

ผูัแทนการค้าไทย เน้นย้ำ ประเทศไทยมุ่งที่จะส่งเสริมการพัฒนาที่สมดุล และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนใน 5 ด้าน ที่ไทยโดดเด่นและมีศักยภาพ ได้แก่ 1.อาหารและเกษตรกรรม 2.บริการทางการแพทย์และสุขภาพ 3.พลังงานชีวภาพ วัสดุชีวภาพ และชีวเคมี 4. การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และ 5.เศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะสอดคล้องกับความพยายามของไทยที่จะ ”เป็นครัวสีเขียวของโลกและศูนย์กลางเศรษฐกิจชีวภาพของเอเชีย“ 

สำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจชีวภาพ และเศรษฐกิจสีเขียว ผู้แทนการค้าไทยระบุ ประเทศไทยเน้นหลักการในการบริหารจัดการของเสียและมลพิษ และการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์และวัสดุ รวมถึงการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม โดยโมเดลเศรษฐกิจ BCG จะช่วยปรับปรุงระบบการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์ ในขณะเดียวกัน จะสร้างมูลค่าในทุกระดับของกระบวนการผลิตและการบริโภค เพื่อให้บริหารจัดการทรัพยากรและนำมาใช้ได้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด

                          “นฤมล“โชว์วิสัยทัศน์เวที SPIEF ย้ำไทยขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ

“รัฐบาลไทยพร้อมส่งเสริมให้ธุรกิจ และ SMEs พัฒนารูปแบบการรีไซเคิลจากขยะเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม รวมถึงนำนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและบรรจุภัณฑ์แบบหมุนเวียนมาใช้ในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนและสร้างเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการจัดการขยะ จะนำไปสู่โลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้อย่างไร

ทั้งนี้ ภาคส่วนสาธารณะจำเป็นต้องให้ความรู้แก่ประชาชน ชักจูงให้ปรับเปลี่ยนทัศนคติและวิถีชีวิตเพื่อให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น และส่งเสริมความสมดุลระหว่างกิจกรรมของมนุษย์และธรรมชาติ 

                             “นฤมล“โชว์วิสัยทัศน์เวที SPIEF ย้ำไทยขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ

ขณะเดียวกัน การบังคับใช้กฎหมาย ยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของประชาชน ให้ไปในทิศทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย และภาคเอกชนสามารถนำมาตรการปฏิรูปขยะมาใช้ในสายการผลิต โดยใช้แนวคิดขยะเป็นศูนย์ รีไซเคิล และนำกลับมาใช้ใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชนจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป“ ผู้แทนการค้าไทย ยืนยัน