แหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทาง นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ส่งหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง ขอเลื่อนการใช้สิทธิ์การเข้าร่วมโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เดิมตามตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 เห็นชอบหลักการโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและได้มอบหมายหน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินงานโครงการโดยหน่วยงานของท่านเป็นผู้รับผิดชอบจัดทำระบบ Application โครงการร่วมกับกรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ระบบจ่ายเงินผ่าน BAAC Mobile และกำหนดระยะเวลาโครงการ และเปิดให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวใช้สิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 และได้มีการประชาสัมพันธ์ในวงกว้างแล้ว
กรมการข้าวมีหน้าที่หลักในรับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบกิจการปุ๋ยและชีวภัณท์ กำหนดราคาควบคุมปุ๋ยและชีวภัณฑ์และทำการบันทึกข้อมูลราคาปุ๋ยทุกสูตรในระบบ Application โครงการ โดยมีเป้าหมายปุ๋ยเคมีใน 16 สูตร เป็นราคาเดียวทั้งประเทศ ส่วนราคาชีวภัณฑ์ให้ใช้ราคาที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรม อยู่ระหว่างการส่งข้อมูลให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบศักยภาพการผลิตปุ๋ย เครื่องจักร/เครื่องมือการผลิต วัตถุดิบการผลิตปุ๋ย ณ โรงาน โดยต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 5 วันทำการ
อีกทั้งกรมการข้าวอยู่ระหว่างจัดทำกำหนดราคาควบคุมปุ๋ยและชีวภัณฑ์ จึงไม่สามารถเปิดให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวใช้สิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 และขอเลื่อนการเปิดให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวใช้สิทธิ์ เป็นวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 - 31 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตามปกติ
โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือค่าปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภัณฑ์ให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร ปีการผลิต 2567/68 ตามพื้นที่ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนไว้จำนวนครึ่งหนึ่ง หรือไม่เกิน 500 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ สูงสุด 10,000 บาท และเกษตรกรจ่ายสมทบอีกครึ่งหนึ่ง
ผู้ที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วม"โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง" ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile โดยเลือกรับการสนับสนุนค่าปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ หรือสารชีวภัณฑ์ที่ต้องการ ซึ่งมีปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 16 รายการ จากนั้นเกษตรกรสามารถชำระเงินสมทบค่าปุ๋ยตามที่แจ้งความประสงค์ และสามารถไปรับปุ๋ยและสารชีวภัณฑ์ได้ที่สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ภายใน 30 วัน
สำหรับปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง กรมวิชาการเกษตร พิจารณาตรวจสอบข้อมูลสูตรปุ๋ยและชีวภัณฑ์ (28 มิ.ย.67) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสำหรับนาข้าว เพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาในการเข้าร่วมโครงการ นั้น
1.ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์มีคำแนะนนำสำหรับนาข้าวทุกสูตร
2.ปุ๋ยเคมี ที่ได้รับใบสำคัญสำหรับการขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมีและหนังสือสำคัญรับแจ้งสำหรับนาข้าว 9 สูตร ได้แก่ สูตร 25-7-4, สูตร 20-8-20, สูตร 46-0-0, สูตร 18-12-6 , สูตร 16-8-8, สูตร 16-12-8, สูตร 16-20-0, สูตร 20-20-0, และ สูตร 16-16-8
3.ปุ๋ยเคมีที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี แต่มิได้มีคำแนะนำสำหรับนาข้าว 5 สูตร (ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯได้ ) ได้แก่ ปุ๋ยเคมีสูตร 20-10-12 , สูตร 30-3-3 ,สูตร 15-15-15 ,สูตร 16-16-16 และ สูตร 13-13-24 ส่วน ชีวภัณฑ์ มีการรับรองทุกสูตรสำหรับนาข้าว ขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร
อย่างไรก็ดี หากผู้ประกอบการประสงค์จะขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมีสำหรับนาข้าว 5 สูตร ที่มิได้มีคำแนะนำสำหรับนาข้าว จะต้องดำเนินการตามประกาศของกรมวิชาการเกษตร เรื่องการขอขึ้นทะเบียน การออกใบสำคัญการขึ้นทะเบียน การขอแก้ไขรายการทะเบียน หรือการแก้ไขรายการทะเบียนปุ๋ยเคมี ตาม พระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ.2518 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ 2)พ.ศ.2550 พ.ศ. 2551 จะต้องทำเอกสารกำกับปุ๋ย (อัตราที่ใช้ วิธีใช้ และระยะเวลาที่ใช้) ส่งมายังกรมวิชาการเกษตร สำหรับใช้ประกอบการขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมีต่อไป