ประเทศไทย โดย กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) เมื่อปี 2546 มีสมาชิกกว่า 65 ประเทศ และได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงาน มหกรรมพืชสวนโลก จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อปี 2549 เป็นการจัดแสดงงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ในระดับ A1 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้เข้าชมงานทั้งไทยและต่างชาติมากกว่า 3.8 ล้านคน เงินสะพัดรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท
ส่วนครั้งที่ 2 จัดขึ้นต่อเนื่อง ในปี 2554 ที่ จ.เชียงใหม่ มีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านคน เงินสะพัดกว่า 1 หมื่นล้านบาท ล่าสุดจะเกิดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี ในปี 2569 และนครราชสีมา ปี 2572
การเตรียมความพร้อมของไทยได้มีการประชุมอย่างต่อเนื่องผ่านคณะกรรมการบริหารงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 มีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ภายใต้กรอบงบประมาณเพื่อดำเนินการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) 2,500 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริหารงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เวลานี้แผนการจัดงานมีปัญหา โดยทางจังหวัดยังไม่ได้ส่งผังแม่บท หรือ Master Plan ของงานฉบับสมบูรณ์มาให้เลย จึงคาดว่า การดำเนินการอาจจะไม่ทันต่อแผนที่กำหนดให้เริ่มจัดงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2569-14 มีนาคม 2570
ทั้งนี้ สมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ (AIPH) มีมติเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2565 ให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2569 ณ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งหากไทยไม่สามารถจัดงานได้ อาจจะถูกปรับจาก AIPH ประมาณ 10-15 ล้านบาท ซึ่งอาจคุ้มกว่า หากไทยดำเนินการไม่ทันและไม่ฝืนทำต่อ และอาจจะใช้บทเรียนนี้ในการจัดงานครั้งต่อไปที่นครราชสีมา โดยเปลี่ยนจากให้ทางจังหวัดเป็นแม่งานหลัก มาเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ดำเนินการแทน
ขณะที่นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดงานพืชสวนโลกที่อุดรธานีว่า ทางจังหวัดได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการใน 3 กิจกรรม
“การจัดงานครั้งนี้ไม่หนักใจ เพราะการทำงานยังเป็นไปตามกรอบระยะเวลาทั้งหมด และได้รับคำยืนยันจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ว่าจะเสร็จทันเวลาและเป็นไปตามข้อกำหนดของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ ก็ขอให้ทุกคนมั่นใจและเชื่อมั่นว่า งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
สอดคล้องกับนายณฐพล วิถี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กลุ่มภารกิจ ด้านกิจการพิเศษ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนงานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 (10 ก.ค.67) เพื่อติดตามความก้าวหน้า เรื่องการปรับสภาพพื้นที่ซึ่งเวลานี้ได้แล้วเสร็จไปแล้ว 30% คาดภายในเดือนพฤศจิกายนนี้จะเสร็จเรียบร้อยทั้งหมด
หลังจากนั้น จะเป็นเรื่องการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ที่กรมวิชาการเกษตรจะมาดำเนินการในลำดับต่อไป ทั้งนี้ ยอมรับว่าในช่วงแรกมีความล่าช้า จากงบประมาณของรัฐบาลปี 2567 เกิดความล่าช้า และมีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้น ซึ่งสามารถจัดการได้ลุล่วง
อนึ่ง งานพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 (ระดับ B) ตามที่ ครม.ได้ยื่นเสนอสิทธิ์ และสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH)ได้คัดเลือกประเทศไทย (จังหวัดอุดรธานี) เป็นเจ้าภาพจัดงาน จากผลการศึกษา พบว่า จะก่อให้เกิดรายได้สะพัดถึง 32,000 ล้านบาท มีมูลค่าการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) 20,000 ล้านบาท เกิดการสร้างงาน 8,100 อัตรา และมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี 7,700 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นกว่า 67,000 ล้านบาท และคาดจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 36 ล้านคน
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,009 วันที่ 14-17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567