ชงครม.ยกระดับปัญหา "ปลาหมอคางดำ" เป็นวาระแห่งชาติเทียบเท่าโควิด

22 ก.ค. 2567 | 09:57 น.
อัพเดตล่าสุด :22 ก.ค. 2567 | 10:11 น.

"ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ" รับข้อเสนอ 9 มาตรการ จากสมาคมฯประมง เตรียมเสนอครม. ดันเป็นวาระแห่งชาติ ยกระดับเทียบเท่าโควิด "นายกรัฐมนตรี" เป็นประธานแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ดีเดย์ 1 ส.ค. เปิดจุดรับซื้อปลาผลิตน้ำหมักชีวภาพ เพื่อส่งมอบให้ กยท.

วันที่ 22 ก.ค. 67 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน การประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ

ชงครม.ยกระดับปัญหา \"ปลาหมอคางดำ\" เป็นวาระแห่งชาติเทียบเท่าโควิด

โดยมี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้แทนสมาคมการประมงจาก 16 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เข้าร่วม ณ สมาคมการประมงสมุทรสาคร อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับข้อเสนอจากสมาคมใน 9 มาตรการ อาทิ การกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ การผ่อนผันเครื่องมือประมงพื้นบ้านที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการใช้จับปลาหมอคางดำ การจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนสนับสนุนในการกำจัดปลาหมอคางดำให้กับชาวประมง และการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจในแต่ละจังหวัด เป็นต้น

ชงครม.ยกระดับปัญหา \"ปลาหมอคางดำ\" เป็นวาระแห่งชาติเทียบเท่าโควิด

ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบทั้ง 9 มาตรการ และได้มอบหมายกรมประมงนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติ โดยได้มอบหมาย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ พร้อมนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอเป็นวาระแห่งชาติต่อไป 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมงได้มีการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวฯ เป็นการเร่งด่วนผ่าน 5 มาตรการสำคัญ คือ

  1. การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด
  2. การกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยการปล่อยปลาผู้ล่าอย่างต่อเนื่อง
  3. การนำปลาหมอคางดำที่กำจัดได้ไปใช้ประโยชน์
  4. การสำรวจและเฝ้าระวังการแพร่กระจายปลาหมอคางดำในพื้นที่เขตกันชน
  5. การสร้างความรู้ ความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในการกำจัดปลาหมอคางดำ

ชงครม.ยกระดับปัญหา \"ปลาหมอคางดำ\" เป็นวาระแห่งชาติเทียบเท่าโควิด

นอกจากนี้ ยังบูรณาการร่วมกับกรมพัฒนาที่ดินในการนำปลาหมอคางดำที่จับขึ้นมาได้ไปผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพ และประสานความร่วมมือกับการยางแห่งประเทศไทยในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำในพื้นที่ระบาดทุกแห่ง

ซึ่งขณะนี้กรมประมงได้มีการรวบรวมแพปลาที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการด้านการประมง (ทบ.2) กับกรมประมง ในพื้นที่ที่มีการระบาด 14 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 49 จุด ได้แก่

  1. จันทบุรี
  2. ระยอง
  3. ฉะเชิงเทรา
  4. สมุทรปราการ
  5. กรุงเทพมหานคร
  6. สมุทรสาคร
  7. สมุทรสงคราม
  8. ราชบุรี
  9. เพชรบุรี
  10. ประจวบคีรีขันธ์
  11. ชุมพร
  12. สุราษฎร์ธานี
  13. นครศรีธรรมราช
  14. สงขลา

ชงครม.ยกระดับปัญหา \"ปลาหมอคางดำ\" เป็นวาระแห่งชาติเทียบเท่าโควิด

สำหรับพิจารณาจัดตั้งเป็นจุดรับซื้อปลาหมอคางดำ โดยการันตีราคารับซื้อที่กิโลกรัมละ 15 บาท ก่อนรวบรวมปลาหมอคางดำที่รับซื้อไว้ไปให้สถานีพัฒนาที่ดินแต่ละพื้นที่ผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพ เพื่อส่งมอบให้การยางแห่งประเทศไทยนำไปแจกจ่ายแก่เกษตรกรในโครงการแปลงใหญ่ เพื่อนำไปใช้ในพื้นที่สวนยางกว่า 200,000 ไร่ โดยจะเริ่มเปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดำทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 นี้ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่มีรายงานการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเป็นที่แรกและมีการระบาดมากที่สุด จึงได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินการตาม 5 มาตรการสำคัญ จนสามารถกำจัดปลาหมอคางดำจากแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกรนำไปจำหน่ายให้กับโรงงานปลาป่นและผู้ประกอบการเกี่ยวเนื่องได้มากกว่า 500 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดมากที่สุด

ชงครม.ยกระดับปัญหา \"ปลาหมอคางดำ\" เป็นวาระแห่งชาติเทียบเท่าโควิด

กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมงจึงได้มีการนำร่องจัดตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำขึ้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ทั้งหมด 5 จุด ประกอบด้วย

  1. แพธนูทอง โทร. 0804646479
  2. แพนางจารุจันทร์ จารวิไพบูลย์ (แพมิตร) โทร. 0873647298
  3. นายชัยพร กรุดทอง (บอย) โทร. 0626585323
  4. นายเฉลิมพล เกิดปั้น โทร. 0871714414
  5. แพนายวิชาญ เหล็กดี โทร. 0877407525 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และคณะ ได้เยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำโดยสถานีพัฒนาที่ดินสมุทรสาคร กรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาครได้มีการประสานในการรับซื้อปลาหมอคางดำสำหรับผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูง (สูตรไนโตรเจนสูง) จำนวน 4,000 ลิตร

ชงครม.ยกระดับปัญหา \"ปลาหมอคางดำ\" เป็นวาระแห่งชาติเทียบเท่าโควิด

โดยได้แจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ กลุ่มหมอดินอาสา กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชผัก ฝรั่ง ลำไย มะพร้าวน้ำหอม และพลู คิดเป็นพื้นที่ได้รับประโยชน์รวมกว่า 533 ไร่ อีกด้วย 

"กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งเสนอปัญหาดังกล่าวเข้าเป็นวาระแห่งชาติ ยกระดับเทียบเท่าการแพระระบาดของโควิด -19 โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธาน เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ ภาคเอกชน และสมาคมต่าง ๆ ด้านประมง ร่วมเป็นคณะกรรมการในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ

ชงครม.ยกระดับปัญหา \"ปลาหมอคางดำ\" เป็นวาระแห่งชาติเทียบเท่าโควิด

นอกจากนี้ ยังเตรียมหารือการประกาศเขตภัยพิบัติ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และสำหรับผู้ใดที่ฝ่าฝืนทำการเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ จะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 144 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ตามประกาศกรมประมง เรื่อง ประชาสัมพันธ์ห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากนำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ