กรมชลฯ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำแม่กลอง พร้อมรับมือปริมาณฝนเพิ่มขึ้น

29 ก.ค. 2567 | 07:13 น.
อัพเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2567 | 07:18 น.

กรมชลประทาน เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำแม่กลอง พร้อมรับมือฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณท้ายเขื่อนวชิราลงกรณ ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ และ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยจำนวนมาก

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึง จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณท้ายเขื่อนวชิราลงกรณ ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ และ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยจำนวนมาก จนไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

กรมชลฯ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำแม่กลอง พร้อมรับมือปริมาณฝนเพิ่มขึ้น

สำนักงานชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยราชการจังหวัดอำเภอ ท้องถิ่น และภาคส่วนต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือ พร้อมเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ อาทิ รถขุด รถตัก รถบรรทุกน้ำ เรือกำจัดวัชพืช และ เครื่องสูบน้ำ รวม 113 หน่วย พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ตลอดเวลา ปัจจุบัน (29 ก.ค.67) ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อไป

สำหรับเขื่อนแม่กลอง จ.กาญจนบุรี ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนฯ เพื่อช่วยลดปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ตอนบนและรองรับปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันสถานการณ์น้ำทางพื้นที่ตอนบนเริ่มคลี่คลายแล้ว จึงได้ปรับลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนฯ ให้เหลืออยู่ในอัตรา 1,160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ชุมนุมที่อยู่ท้ายน้ำแม่น้ำแม่กลอง

 

 

ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ไปยังจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อนแม่กลอง ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และ สมุทรสงคราม ให้ประชาชนที่มีที่พักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำ ขนย้ายสิ่งของทรัพย์สินขึ้นที่สูง เพื่อลดความเสียหาย จากการระบายน้ำที่เพิ่มมากขึ้น และขอให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด จากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป