นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการประชุมหารือกับภาคเอกชนรายใหญ่ โดยโครงการดังกล่าวจะมีเอกชนเข้าร่วม 150 ราย อาทิ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย
สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เครือเจริญโภคภัณฑ์ เครือไทยเบฟเวอเรจ เครือเซ็นทรัล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ จำกัด บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) บริษัท ยูนิชาร์ม (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
ทั้งนี้ ได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดนัดกระทรวงพาณิชย์ และ ได้พูดคุยกับประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดถึงความพร้อมในการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตอีกด้วย โดยพ่อค้าแม่ค้าได้ขอบคุณในการงดเก็บค่าเช่าแผง 4 เดือน ทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจซบเซา
ซึ่งจะเริ่มดำเนินโครงกานตั้งแต่เดือน ส.ค. - พ.ย.67 โดยงดการจัดเก็บค่าใช้พื้นที่รายเดือนให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าในศูนย์อาหารสวัสดิการกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 43 ร้านค้า
และงดเก็บค่าเช่าแผงตลาดนัดสวัสดิการกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 993 แผง และผู้ประกอบการร้านค้าในอาคารของสำนักงาน และลานชั้นสาม อีก 1,047 ร้านค้า เป็นเวลา 4 เดือน
และในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ รัฐบาลนำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกัน Kick off โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งการช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก การจัดตลาดนัดพาณิชย์ทั่วประเทศ
และการลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ จะช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก ให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น และช่วยลดภาระค่าครองชีพ
ในช่วงที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังรอเงินจากโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ที่คาดว่าจะดำเนินการได้ในไตรมาส 4 ของปีนี้