วันที่ 11 กันยายน 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ถือฤกษ์ดีเข้ากระทรวงฯ วันแรก และได้ไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ และผู้บริหารระดับสูงให้การต้อนรับ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพาณิชย์ ว่า การเข้ากระทรวงวันนี้เป็นวันแรก รู้สึกยินดีและก็พร้อมยืนยันว่าความสัมพันธ์กับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ ทั้ง 2 ท่าน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น เรารักกันและพร้อมที่จะร่วมมือการทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่
นายพิชัยกล่าวว่า ก็ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่แต่งตั้งมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพร้อมทำงาน และเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนพร้อมร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศไทยที่ประสบปัญหามาหลายปีจะต้องแก้ไข
ทั้งนี้ เชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์จะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะช่วยหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเราไม่ได้มีการเจรจาการค้ากับต่างประเทศมาหลายปี โดยจะเร่งในเรื่องนี้ ซึ่งมีแผนงานไว้แล้ว และก็พร้อมที่จะเร่งเดินหน้าเจรจาเต็มที่
เร็วๆนี้ รัฐบาลจะแถลงนโยบาบต่อรัฐสภา ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เช่น การช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งปัจจุบันประสบปัญหาเยอะ โดยเฉพาะหนี้ ซึ่งไม่ได้ต้องการต่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) แต่ว่าความร่วมมือจากแบงก์ชาติมีความจำเป็น และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการเจอปัญหาจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 ซึ่งทั่วโลกเจอปัญหาเดียวกันเป็นเรื่องที่ต้องดึงเศรษฐกิจให้กลับมา เพื่อให้เกิดรายได้และให้เศรษฐกิจฟื้นฟู
“หากปล่อยไปไม่แก้ไข ก็จะเกิดปัญหาหนี้เพิ่มขึ้น สุดท้ายก็ต้องมีปัญหา แล้วทำไมเราไม่แก้ไขเลย และคิดว่าความร่วมมือกับแบงก์ชาติ ธนาคารพาณิชย์ เป็นสิ่งสำคัญ และในขณะเดียวกัน เราก็ต้องการตลาดใหม่และบุกตลาดใหม่เป็นเรื่องที่ต้องทำ”นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ส่วนภารกิจเร่งด่วนที่จะดำเนินการ รอให้มีการแถลงนโยบายของรัฐบาลก่อน ตอนนี้เพียงบอกได้แค่เป้าหมายที่จะทำซึ่งเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการช่วยเหลือประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้สินค้าราคาถูก
ส่วนปัญหาสินค้าจีน เรื่องนี้เราต้องการให้ระมัดระวัง โดยไม่ได้ต้องการให้ใช้คำว่า “สินค้าจีน” อย่างเดียวจะกลายเป็นว่าเราต่อต้านจีนย่างเดียว ทางจีนเองก็ให้ความกังวลในเรื่องนี้
โดยจีนทางสถานทูตจีนก็มีความกังวล ไม่ได้ต้องการให้มองเป็นผู้ร้าย ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ได้พูดคุยและพร้อมที่จะหารือกับทางจีนเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะว่าจีน หรือแม้สหรัฐเองก็มองประเทศไทยเป็นเป็นพี่น้อง ซึ่งเป็นเรื่องโชคดี ถ้าเราสานสัมพันธ์กับต่างประเทศได้ดีก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้เร็ว ก็จะดึงดูดการลงทุนด้วยซึ่งเพิ่มขึ้นและต่อเนื่องในอนาคต
“อุตสาหกรรมใหม่ต่างชาติให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ และที่ผ่านมาผมได้ไปดูงานและมีนักลงทุนไทยก็สนใจที่จะเข้ามา มีเม็ดเงินเข้ามากว่าแสนล้านบาทที่นำมาลงทุน และหากเรามีแนวทางชัดเจนก็น่าจะมีเข้ามาเป็นล้านล้านบาท”
อย่างไรก็ดี ส่วนการดูแลราคาสินค้าเกษตรก็ต้องมองว่าอะไรออกมาก็ต้องดูว่าจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร แต่ทั้งนี้ก็รอแถลงนโยบายของรัฐบาลก่อน ซึ่งก็พร้อมจะเปิดแนวทางทั้งหมดในการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป ส่วนการมอบนโยบายให้ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เบื้องต้นจะให้ในวันที่ 16 กันยายน 2567 รวมไปถึงการแบ่งงานระหว่าง 2 รัฐมนตรีด้วย