นายรังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปัจจุบันข้าวเปลือกและข้าวสาร ราคาปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก หากเทียบราคาช่วงเดือนสิงหาคมกับกันยายน พบว่า ข้าวเปลือก ลดลงเฉลี่ย 1,000 บาทต่อตัน ส่วนข้าวสาร ลดลงเฉลี่ย 2,000 บาทต่อตัน
โดยสาเหตุหลักมาจากการตลาดโลกมีการซื้อข้าวน้อยลง เนื่องจากแต่ละประเทศมีปริมาณข้าวค่อนข้างเยอะ ค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้การแข่งขันด้านราคาประเทศไทยสูงกว่าประเทศผู้ส่งออกอื่นๆ อาทิ เวียดนาม
"ตอนนี้ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาลดลง เพราะต่างประเทศมีความต้องซื้อข้าวลดลง รวมถึงราคาที่มีแข่งขันกัน เงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นก็ส่งผลกระทบเพราะราคาข้าวเราจะสูงกว่าประเทศอื่น ตอนนี้ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาข้างจะสูงขึ้นหรือลดลงไปอีก เพราะเราต้องแข่งขันกับต่างประเทศ ต้องดูราคาต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะเวียดนาม ซึ่งเรื่องคุณภาพข้าวทุกประเทศ เหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นผู้ซื้อเขาก็เลือกประเทศที่ให้ราคาดี "
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยในประเทศ เรื่องสภาพคล่องของผู้ประกอบการโรงสีข้าว ซึ่งเป็นต้นทางของการซื้อข้าวเปลือก ตอนนี้สถาบันการเงิน มีความเข้มงวดในเรื่องการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มโรงสีค่อนข้างมาก ทำให้โรงสีไม่มีสภาพคล่อง จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงสีให้มีสภาพคล่องที่ดี โดยให้ทางธนาคารปล่อยเครดิตให้กับผู่ประกอบการ เพื่อจะได้มีสำรองหมุนเวียนซื้อข้าว ลดเงื่อนไขต่าง ๆ เพิ่มวงเงิน
"ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีเงินวงเงินอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาบางรายก็ถูกลดวงเงิน จำกัดการเบิกใช้ มีกฎระเบียบมาตรฐานที่เข้มงวดเกินไป แต่เราพยายามแก้ไขของเราเองเพื่อที่จะให้เกษตรกรเดือดร้อน"
ขณะเดียวกัน แม้ราคาพืชเกษตรของไทยปีนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี แม้จะมีขึ้นลงบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเกษตรกรก็ไม่ได้มีกำไรมากนัก เพราะต้นทุนในการดูแลสินต้าค่อนข้างสูง อาทิ ปุ๋ย น้ำมัน
ขณะที่ ปีหน้ายังไม่สามารถคาดเดาสถาการณ์ได้ว่าปริมาณข้าวของไทยจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากน้อยขนาดไหน ต้องรอดูสภาพอาการ