นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมกล่าวในพิธีเปิดการประชุมเจรจาความตกลง EPA ไทย – เกาหลีใต้ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 25 – 27 กันยายน 2567 ณ กรุงโซล ร่วมกับ นายชอง อิน-กโย รัฐมนตรีการค้า กระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงานของเกาหลีใต้ ซึ่งสองฝ่ายพร้อมเดินหน้าการเจรจาให้ได้ข้อสรุปภายในปี 2568 ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ โดยไทยได้ขอให้ฝ่ายเกาหลีใต้พิจารณาเปิดตลาดสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงของไทย อาทิ สินค้ากลุ่มผลไม้เมืองร้อน เช่น มะม่วง มังคุด และสับปะรด กุ้งสดและแปรรูป เนื้อไก่สดและแปรรูป
ทั้งนี้ ยังได้พบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีการค้า ซึ่งไทยและเกาหลีใต้ได้พัฒนาความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันมากว่า 10 ปี และทั้งสองฝ่ายพร้อมจะยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ
สำหรับ ไทย - เกาหลีใต้ (Economic Partnership Agreement: EPA) ซึ่งจะเป็นความตกลงการค้าเสรีทวิภาคีที่ครอบคลุมการเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุนเพิ่มเติมจากความตกลงการค้าเสรีที่ไทยและเกาหลีใต้เป็นภาคีร่วมกัน ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - เกาหลีใต้ (AKFTA) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF)
นอกจากนั้น ยังหารือถึงการรื้อฟื้นกลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า หรือ JTC ระดับรัฐบาลที่ห่างหายไปกว่า 20 ปี เพื่อใช้เป็นเวทีหารือถึงแนวทางการส่งเสริมการค้าและการลงทุน ตลอดจนแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้า การลงทุน และอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JTC ในช่วงต้นปี 2568 นอกจากนั้น ตนได้แจ้งฝ่ายเกาหลีใต้ว่าไทยพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพการประชุม APEC ของเกาหลีใต้ที่จะมีขึ้นในปี 2568 อีกด้วย
“ผมใช้โอกาสนี้เชิญชวนนักธุรกิจเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ การแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพ ดิจิทัล และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่เกาหลีใต้มีศักยภาพสูง และขอให้เกาหลีใต้ช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและนักลงทุนของไทยที่ปัจจุบันมีการลงทุนในเกาหลีใต้ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน เช่น โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม และโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว (Green Growth) ของรัฐบาลเกาหลีใต้ในปัจจุบัน ที่กำหนดเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายใน พ.ศ. 2593” นายสุชาติกล่าว
อย่างไรก็ดี ในปี 2566 เกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับ 12 ของไทย มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 14,744 ล้านดอลลาร์ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ 6,073 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ
น้ำมันสำเร็จรูป
ผลิตภัณฑ์ยาง
น้ำตาลทราย
แผงวงจรไฟฟ้า
ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม
ไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ 8,671 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ
ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค. - ก.ค.) การค้าสองฝ่ายมีมูลค่ารวม 8,949 ล้านดอลลาร์ เป็นการส่งออก 3,598 ล้านดอลลาร์ และเป็นการนำเข้า 5,351 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ในปี 2566 เกาหลีใต้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากเป็นอันดับ 7 จำนวน 25 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 38,418 ล้านบาท