จัดหนัก 5 มาตรการอุ้มเกษตรกรปลูก "ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์" ชงครม.ของบ 320 ล้าน

27 ก.ย. 2567 | 09:17 น.
อัพเดตล่าสุด :27 ก.ย. 2567 | 09:46 น.

นบขพ. เคาะมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาและส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2567/68 ภายใต้วงเงิน 320 ล้านบาท พร้อมคงมาตรการ 3 ต่อ 1 การนำเข้าข้าวโพด ภายใต้ AFTA ผู้นำเข้าทั่วไปนำเข้าได้ในช่วง 1 ก.พ.-31 ส.ค. 2568 และจะเสนอเข้า ครม. เห็นชอบต่อไป

วันที่ 27 กันยายน 2567 นายวัฒนาศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ซึ่งมี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน โดยมีมติเห็นชอบแนวทางการดูแลตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวม 5 โครงการ รวมงบประมาณ 320.71 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2567/2668 จำนวน 2 โครงการ และการเพิ่มช่องทางการตลาด 1 โครงการ รวมวงเงิน 113.17 ล้านบาท
  • มาตรการส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 2 โครงการ วงเงิน 207.54 ล้านบาท

 

จัดหนัก 5 มาตรการอุ้มเกษตรกรปลูก \"ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์\" ชงครม.ของบ 320 ล้าน

สำหรับมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และการเพิ่มช่องทางการตลาด จำนวน 1 โครงการ ถือเป็นโครงการเพื่อช่วยเหลือสภาพ คล่องของสถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกร โดยไม่เร่งระบายผลผลิต รวมถึงรักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก 

ขณะที่มาตรการส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 2 โครงการ วงเงิน 207.54 ล้านบาท ถือเป็นโครงการเพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนในการพัฒนาการผลิตของตนเอง โดยใช้เทคโนโลยีที่ เหมาะสม และลดต้นทุนการผลิต

อย่างไรก็ดี มาตรการทั้งหมดจะมีการนำไปหารือกับสำนักงบประมาณพิจารณา และจะได้นำเสนอ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงเดือนตุลาคมให้ความเห็นชอบต่อไป

สำหรับรายละเอียดโครงการทั้งหมด ที่ผ่านการเห็นชอบในที่ประชุม นบขพ. ทั้ง 5 โครงการ มีดังนี้

1. โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2567/2568 วงเงิน 26.67 ล้านบาท จะชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ 4% ต่อปี ตามระยะเวลาที่เก็บสต็อก 60 -120 วัน ระยะเวลารับซื้อ ตั้งแต่ พ.ย. 2567– ม.ค.2568 

2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี 2567/2568 วงเงิน 35 ล้านบาท ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส. จะสนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกร

โดยคิดดอกเบี้ยเงินกู้ 4.50% ต่อปี สถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ย 1% ต่อปี และรัฐบาลสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ ธ.ก.ส. 3.50% ต่อปี (ไม่เกิน 12 เดือน) เริ่มจ่ายสินเชื่อ ตั้งแต่ ครม. มีมติอนุมัติ- 31 พ.ค. 68

 

จัดหนัก 5 มาตรการอุ้มเกษตรกรปลูก \"ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์\" ชงครม.ของบ 320 ล้าน

 

3. โครงการเพิ่มช่องทางการตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2567/2568 วงเงิน 51.50 ล้านบาท โดยองค์การคลังสินค้า จะเข้าไปรับซื้อในพื้นที่ที่ผลผลิตออกมาก กระจายไปสู่ผู้ใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อลดการกระจุกตัวของผลผลิต ซึ่ง อคส. จะสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 3% (3 เดือน) และผู้รับซื้อได้รับสนับสนุนค่าบริหารจัดการ ไม่เกิน 500 บาท/ตัน เริ่มรับซื้อตั้งแต่ ต.ค. 2567 – 31 ม.ค. 2568 

4.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2567 – 2568 วงเงิน 138 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส. จะสนับสนุนสินเชื่อแก่เกษตรกรนำไปใช้เป็นเงินทุนในการเพิ่มผลิตภาพการผลิตและคุณภาพ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เช่น ระบบน้ำหยด วงเงินรายละไม่เกิน 230,000 บาท เป้าหมาย 10,000 ราย รัฐบาลชดเชย ดอกเบี้ย 3% ต่อปีเริ่มจ่ายสินเชื่อ ตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติอนุมัติ– 30 ก.ย. 2568 

5.โครงการส่งเสริมพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประเทศไทย (ปีที่ 1) วงเงิน 69.54 ล้านบาท โดยกรมส่งเสริมการเกษตรอบรมถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรและจัดท าแปลงเรียนรู้ในการเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา เป้าหมาย เกษตรกร 37,440 ราย ในพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 32 จังหวัด เริ่มดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติอนุมัติ ถึง 30 ก.ย. 2568 

 

จัดหนัก 5 มาตรการอุ้มเกษตรกรปลูก \"ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์\" ชงครม.ของบ 320 ล้าน

 

สำหรับมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และวัตถุดิบทดแทนยังคงมาตรการเดิม โดยการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้ AFTA ผู้นำเข้าทั่วไปนำเข้าได้ในช่วง 1 ก.พ. – 31 ส.ค. 2568 

นอกจากนี้ในการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วนต้องรับซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน ให้ใช้การรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ตั้งแต่ 1 ส.ค. 2567 เป็นต้นไป มาแสดงประกอบการขออนุญาตนำเข้าข้าวสาลีในปี 2568