ค้าไทย-ตะวันออกกลาง 1.3 ล้านล้าน ส่อสำลักไฟสงคราม
จับตาค้าไทย-ตะวันออกกลาง 1.3 ล้านล้านบาท สำลักไฟสงคราม ตัวเลขพาณิชย์ชี้ 8 เดือนแรกปี 68 ค้าไทย-ยูเออีมาอันดับ 1 ตามด้วยซาอุฯ เบอร์ 2 ขณะอิสราเอล-อิหร่านคู่กัดรั้งอันดับ 6 และ 12 ไทยขาดดุลรวมกว่า 4.2 แสนล้าน ห่วงชาติมหาอำนาจร่วมวง กระทบหนักเศรษฐกิจ การค้าโลก
สงครามในตะวันออกกลางส่อขยายวงความรุนแรงมากขึ้นหลังอิหร่านได้เปิดปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธประมาณ 180 ลูกแบบไม่ทันตั้งตัว(เมื่อ 1 ต.ค.67) เพื่อตอบโต้การสังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์ในแผ่นดินอิหร่านก่อนหน้านี้ ขณะที่อิสราเอลประกาศจะโจมตีตอบโต้เอาคืนอิหร่าน
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงกระเพื่อมส่งผลกระทบในวงกว้างต่อโลก ทั้งตลาดหุ้นตก ราคาทองคำสินทรัพย์ปลอดภัยราคาพุ่ง ราคาน้ำมันตลาดโลกจ่อปรับขึ้น รัฐบาลไทยสั่งเตรียมพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอลเพื่อความปลอดภัย อีกด้านหนึ่งภาครัฐและเอกชนไทยจับตาสถานการณ์ในครั้งนี้หากมีความยืดเยื้อ และความรุนแรงขยายวงขึ้น จากประเทศมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐอเมริกา และชาติตะวันตกที่ออกมาประณามอิหร่าน และพร้อมให้การสนับสนุนอิสราเอล อาจส่งผลกระทบต่อโลกในหลายมิติตามมา
ทั้งนี้”ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร พบว่า ในปี 2566 การค้าไทยกับตะวันออกกลาง (มี 15 ประเทศ ประกอบด้วย ซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) อิหร่าน อิรัก ตุรกี อิสราเอล จอร์แดน คูเวต เลบานอน โอมาน กาตาร์ ซีเรีย เยเมน และไซปรัส) มีมูลค่ารวม 1.38 ล้านล้านบาท โดยไทยส่งออก 393,481 ล้านบาท และนำเข้า 988,929 ล้านบาท ไทยขาดดุลการค้า 595,448 ล้านบาท
ล่าสุดช่วง 8 เดือนแรกปี 2567 การค้าไทย-ตะวันออกกลาง มีมูลค่า 980,416 ล้านบาท (+6.7%) โดยไทยส่งออก 279,502 ล้านบาท (+3.9%) ไทยนำเข้า 700,914 ล้านบาท (+9.5%) ไทยขาดดุลการค้า 421,413 ล้านบาท
สำหรับสินค้าส่งออก 5 อันดับแรกของไทยไปตะวันออกกลางได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, ข้าว,เครื่องปรับอากาศ, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และผลิตภัณฑ์ยาง
ส่วนสินค้านำเข้า 5 อันดับแรกของไทยจากตะวันออกกลาง ได้แก่ น้ำมันดิบ, ก๊าซธรรมชาติ, น้ำมันสำเร็จรูป, ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ และเคมีภัณฑ์
ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลยังพบว่า ในจำนวน 15 ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกกลาง ที่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7% ที่ไทยค้ากับโลก ในจำนวนนี้ คู่ค้า 5 อันดับแรกของไทยในตะวันออกกลาง ช่วง 8 เดือนแรกปี 2567 อันดับ 1 คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีมูลค่าการค้ารวม 491,760 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 84,082 ล้านบาท นำเข้า 407,678 ล้านบาท ไทยขาดดุลการค้า 323,597 ล้านบาท อันดับ 2 ซาอุดีอาระเบีย มีมูลค่าการค้ารวม 109,899 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 68,564 ล้านบาท นำเข้า 122,335 ล้านบาท ไทยขาดดุลการค้า 53,771 ล้านบาท
อันดับ 3 กาตาร์ มีมูลค่าการค้ารวม 108,423 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 9,767 ล้านบาท นำเข้า 98,656 ล้านบาท ไทยขาดดุลการค้า 88,889 ล้านบาท อันดับ 4 ตุรกี มีมูลค่าการค้ารวม 39,458 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 30,199 ล้านบาท นำเข้า 9,259 ล้านบาท ไทยเกินดุลการค้า 20,939 ล้านบาท และอันดับ 5 โอมาน มีมูลค่าการค้า รวม 33,418 ล้านบาท โดยไทยนำเข้า 9,015 ล้านบาท นำเข้า 24,402 ล้านบาท ไทยขาดดุลการค้า 15,387 ล้านบาท
ขณะที่คู่สงคราม อิสราเอล-อิหร่าน อิสราเอล เป็นคู่ค้า อันดับ 6 ของไทยในตะวันออกกลาง ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้มีมูลค่าการค้ารวม 31,616 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 20,468 ล้านบาท นำเข้า 11,149 ล้านบาท ไทยเกินดุลการค้า 9,319 ล้านบาท
ส่วนอิหร่าน เป็นคู่ค้าอันดับ 12 ของไทย มีมูลค่าการค้ารวม 3,996 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 3,090 ล้านบาท นำเข้า 906 ล้านบาท ไทยเกินดุลการค้า 2,184 ล้านบาท
ทั้งนี้หากสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางยังยืดเยื้อ และทวีความรุนแรง หลายฝ่ายคาดการณ์จะส่งผลกระทบต่อการค้าไทย-ตะวันออกกลาง รวมถึงกระทบต่อเศรษฐกิจ การค้าโลกตามมาอย่างแน่นอน