แนวโน้มราคาทองขาขึ้น อานิสงส์สงครามตะวันออกกลางรุนแรงยืดเยื้อ

02 ต.ค. 2567 | 08:16 น.
อัพเดตล่าสุด :02 ต.ค. 2567 | 08:16 น.

กูรูส่องแนวโน้มราคาทองคำขาขึ้น รับอานิสงส์สงครามตะวันออกกลาง ดันราคาทองคำโคเม็กซ์สหรัฐ พุ่ง 1.16% หรือ 30.90 ดอลลาร์ ขึ้นมาแตะที่ระดับ 2,690.30 ดอลลาร์ พร้อมมองดีมานด์ยังมีแบงก์จีนเพิ่มน้ำหนักถือสินทรัพย์ปลอดภัยโดยเฉพาะทองคำมากขึ้น

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นของทางฝั่งตะวันออกกลาง หลังจากที่ล่าสุด อิหร่านซึ่งเป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ได้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล

อาจเป็นแรงหนุนการเก็งในสินทรัพย์ปลอดภัย และโดยปกติเมื่อมีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะไปดันให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูง แต่ถามว่าแล้วราคาทองคำจะสูงขึ้นได้ต่อหรือไม่ และจะไปได้ไกลมากน้อยแค่ไหนนั้น เรื่องนี้ก็อาจต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสงคราม อย่างไรก็ดี มองว่าด้วยสาเหตุของสงครามตะวันออกกลางอาจไม่ได้หนุนให้ราคาทองปรับตัวเพิ่มสูงต่อไปได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

จากการประเมินราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มาจากดีมานด์จริงของธนาคารกลางทั่วโลกและโดยเฉพาะฝั่งแบงก์ชาติจีน ที่ต้องการลดการถือสินทรัพย์เสี่ยงอย่างพันธบัตรลง และหันมาให้น้ำหนักในการลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำเพิ่มมากขึ้น ทำให้ราคาทองคำไต่ระดับสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ราคาทองคำโคเม็กซ์สหรัฐฯ ปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้น 1.16% หรือ 30.90 ดอลลาร์ ขึ้นมาแตะที่ระดับ 2,690.30 ดอลลาร์ เนื่องจากมาจากได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากอิหร่านเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอล

ขณะที่ราคาทองสปอต (Spot gold) ปรับตัวขึ้น 1% ไปแตะ 2,661.63 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อคืนนี้ สำหรับราคาทองคําฮ่องกง เปิดตลาดเช้าวันนี้ 2 ต.ค.67 เพิ่มขึ้น 50 ดอลลาร์ฮ่องกง สู่บริเวณ 24,620 ดอลลาร์ฮ่องกง