แหล่งข่าวจากเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากที่คณะกรรมาธิการส่งเสริมการสนับสนุนดำเนินการตามกฎระเบียบว่าด้วยการไม่ตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป(EUDR) ได้เสนอขยายระยะเวลาเริ่มบังคับใช้กฎระเบียบ EUDR ออกไปอีก 12 เดือน โดยจะเริ่มบังคับใช้กฎระเบียบ EUDR กับบริษัทหรือผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 และวิสาหกิจขนาดย่อมหรือผู้ประกอบการรายย่อย ในวันที่ 30 มิถุนายน 2569 ส่งผลให้ ณ ปัจจุบันไม่มีผู้เข้ามาซื้อยางพารา EUDR ในตลาดกลางยางพารา
ล่าสุด นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฎิบัติการ รักษาการแทนผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้แจ้งหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง แจ้งชะลอการซื้อขายยาง EUDR ชนิดยางก้อนถ้วย ยางแผ่นรมควัน และยางแผ่นดิบ ซึ่งปกติ กยท. ดำเนินการซื้อขายยาง EUDR ภายใต้โครงการสนับสนุนการตรวจสอบย้อนกลับผลผลิตยางพารา ผ่าน Platform TRT ของตลาดยางพารา การยางแห่งประเทศไทย ทั้ง 8 แห่ง ซึ่งมีกำหนดการจัดประมูลทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี เวลา 13.00 -14.00 น. ออกไปพลางก่อน
ทั้งนี้มีผลวันที่ 24 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป แต่หากสำนักงานตลาดกลางยางพารามีคู่ค้าก็สามารถดำเนินการซื้อขายยางตามดุลพินิจของผู้อำนวยการตลาดนั้น ๆ ได้ จึงขอแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบ และแจ้งให้เกษตรกรชาวสวนยางให้รับทราบโดยทั่วกัน
สำหรับ กยท. เปิดตลาด ประมูลซื้อขายยาง EUDR ครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 มีบริษัทผู้ซื้อที่ต้องการยางสูงเข้ามาร่วมประมูลยาง EUDR ทำให้ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ปิดราคาสูงสุดที่ 94.01 บาท/กิโลกรัม(กก.) ยางก้อนถ้วย DRC 100% ปิดราคาสูงสุดที่ราคา 66.80 บาท/กก. และ ยางก้อนถ้วย DRC 65% ปิดราคาสูงสุดที่ 43.42 บาท/กก. โดยเปิดตลาดประมูลซื้อขายสัปดาห์ละ 1 ครั้งทุกวันพฤหัสบดี และต่อมาก็ได้มีการขยายเพิ่มเป็นวันอังคาร จากการเรียกร้องของผู้ประกอบการ และสถาบันเกษตรกรยางพารา ทำให้มีการประมูลซื้อขายสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
อนึ่ง ตลาดกลางยางพาราจังหวัดสงขลา ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2567 ราคา "น้ำยางสด" ณ หน้าโรงงานราคาปรับลดลง 3 บาท/กก. จากราคา 77 บาท/กก.ปรับลด เหลือ 74 บาท/กก. เช่นเดียวกับ "ยางแผ่นรมควัน" ปรับลดลง 1.33 บาท/กก. จาก 77.33 บาท/กก.เหลือ 76 บาท/กก.
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังบริษัทผู้ส่งออกถึงสาเหตุที่น้ำยางสดราคาปรับลดลง ได้รับแจ้งว่าเป็นผลจากเศรษฐกิจจีนผู้นำเข้ายางพารารายใหญ่ยังไม่ดี ไม่มีผู้ซื้อ ส่วนบริษัทที่สามารถพอจะซื้อได้ ได้หันไปซื้อจากเวียดนามที่ราคายางถูกกว่า โดยราคาต่างกันประมาณ 10 บาท/กก.