สหรัฐฯ รับปากดันไทยหลุด Watch List เร่งต่ออายุสิทธิ GSP

15 พ.ย. 2567 | 00:05 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2567 | 02:05 น.

"พิชัย" รมว.พาณิชย์ ถก ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จับตา สหรัฐฯรับปากถอดไทยจากบัญชีจับตาทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมผลักดันการต่ออายุโครงการ GSP ดันไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของสหรัฐฯ

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงลิมา ศูนย์ประชุมลิม่าคอนเวชั่นเซ็นเตอร์ เวลา 12.30 น. (เวลาท้องถิ่นเปรู) นายพิชัย  นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับนางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ

 

สหรัฐฯ รับปากดันไทยหลุด Watch List เร่งต่ออายุสิทธิ GSP

 

ทั้งนี้ สหรัฐฯ อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ไปสู่รัฐบาลใหม่ ฝ่ายไทยจึงได้ของให้ทางสหรัฐฯ พิจารณาถอดถอนไทยออกจากบัญชีประเทศ ที่ต้องจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็รับปากจะถอดถอนไทยของจาก Watch List เร็วๆนี้

นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังขอให้ทางสหรัฐฯ เร่งรัดต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางศุลกากร ( GSP) ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อปี 2563 โดยฝ่ายไทยได้ชี้แจงว่าตัวเลขกานส่งออกสินค้าไทยภายใต้ GSP ไปยังสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าของต่างชาติที่มาผลิตในประเทศไทย จึงอยากให้พิจารณาให้สิทธิ GSP ให้กับผู้ส่งออกสินค้าไทยอีกครั้ง

 

สหรัฐฯ รับปากดันไทยหลุด Watch List เร่งต่ออายุสิทธิ GSP

 

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยได้เชิญชวนภาคเอกชนสหรัฐฯเข้ามาลงทุนใยไทยโดยในช่วงปลายเดือนมกราคม 2568 และ Hewlett-Packard Company หรือ (HP) จะโยกการลงทุนทั้งหมดเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งถือว่าประเทศไทยกลับมาเนื้อหอมอีกครั้งในรอบหลายปี โดย HP บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ มีแผนจะย้านฐานการผลิตคอมพิวเตอร์ PCมายังประเทศไทย

“ในการหารือครั้งนี้ ไทยได้แจ้งสหรัฐฯ ว่าไทยพร้อมเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของสหรัฐฯ เช่น ดิจิทัล AI อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์  โดยที่ผ่านมา บริษัทดิจิทัลสัญชาติสหรัฐฯ อย่างบริษัท Google และ Amazon ที่ได้ยืนยันแผนการลงทุนในธุรกิจ Data Center และ Cloud Service ในไทย ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลของภูมิภาค พร้อมทั้งได้เชิญชวนบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ อื่นๆ เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มอีกปลายเดือนนี้“ นายพิชัย กล่าว 

นายพิชัย ย้ำว่า ตนจะเดินทางไปงานสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งจะมีโอกาสได้เจอกับผู้นำทางการค้า ซึ่งได้ใช้โอกาสนี้พูดคุยกันไว้ก่อนแล้ว ซึ่งจะเป็นการไปพูดคุยว่าไทยเป็นมิตร และบริษัทในสหรัฐจะมาลงทุนในไทยเยอะ จึงควรจะเอื้อประโยชน์ให้ไทย ซึ่งหากจะเกิดสงครามการค้า ให้มองข้ามไทยไป นี่คือแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งทางท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็ให้นโยบายในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุด

 

สหรัฐฯ รับปากดันไทยหลุด Watch List เร่งต่ออายุสิทธิ GSP

 

สำหรับปี 2566 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 2 ของไทย รองจากจีน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 67,659.89 ล้านดอลลาร์ โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ 48,352.79 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ 

  • เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 
  • ผลิตภัณฑ์ยาง 
  • เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบอุปกรณ์กึ่งตัวนำ 
  • ทรานซิสเตอร์ และไดโอด 
  • อัญมณีและเครื่องประดับ
  • รถยนต์และส่วนประกอบ
  • เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 

ขณะที่สหรัฐฯ เป็นแหล่งนำเข้าลำดับ 3 ของไทย มีมูลค่าการนำเข้าจากสหรัฐฯ 19,307.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ 

  • น้ำมันดิบ 
  • เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 
  • เคมีภัณฑ์ 
  • ก๊าซธรรมชาติ 
  • แผงวงจรไฟฟ้า 
  • เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 
  • ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ 
  • เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์