วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงลิมา ศูนย์ประชุมลิม่าคอนเวชั่นเซ็นเตอร์ เวลา 12.30 น. (เวลาท้องถิ่นเปรู) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับนางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ไปสู่รัฐบาลใหม่ ฝ่ายไทยจึงได้ของให้ทางสหรัฐฯ พิจารณาถอดถอนไทยออกจากบัญชีประเทศ ที่ต้องจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็รับปากจะถอดถอนไทยของจาก Watch List เร็วๆนี้
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังขอให้ทางสหรัฐฯ เร่งรัดต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางศุลกากร ( GSP) ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อปี 2563 โดยฝ่ายไทยได้ชี้แจงว่าตัวเลขกานส่งออกสินค้าไทยภายใต้ GSP ไปยังสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าของต่างชาติที่มาผลิตในประเทศไทย จึงอยากให้พิจารณาให้สิทธิ GSP ให้กับผู้ส่งออกสินค้าไทยอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยได้เชิญชวนภาคเอกชนสหรัฐฯเข้ามาลงทุนใยไทยโดยในช่วงปลายเดือนมกราคม 2568 และ Hewlett-Packard Company หรือ (HP) จะโยกการลงทุนทั้งหมดเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งถือว่าประเทศไทยกลับมาเนื้อหอมอีกครั้งในรอบหลายปี โดย HP บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ มีแผนจะย้านฐานการผลิตคอมพิวเตอร์ PCมายังประเทศไทย
“ในการหารือครั้งนี้ ไทยได้แจ้งสหรัฐฯ ว่าไทยพร้อมเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของสหรัฐฯ เช่น ดิจิทัล AI อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ โดยที่ผ่านมา บริษัทดิจิทัลสัญชาติสหรัฐฯ อย่างบริษัท Google และ Amazon ที่ได้ยืนยันแผนการลงทุนในธุรกิจ Data Center และ Cloud Service ในไทย ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลของภูมิภาค พร้อมทั้งได้เชิญชวนบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ อื่นๆ เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มอีกปลายเดือนนี้“ นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย ย้ำว่า ตนจะเดินทางไปงานสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งจะมีโอกาสได้เจอกับผู้นำทางการค้า ซึ่งได้ใช้โอกาสนี้พูดคุยกันไว้ก่อนแล้ว ซึ่งจะเป็นการไปพูดคุยว่าไทยเป็นมิตร และบริษัทในสหรัฐจะมาลงทุนในไทยเยอะ จึงควรจะเอื้อประโยชน์ให้ไทย ซึ่งหากจะเกิดสงครามการค้า ให้มองข้ามไทยไป นี่คือแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งทางท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็ให้นโยบายในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุด
สำหรับปี 2566 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 2 ของไทย รองจากจีน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 67,659.89 ล้านดอลลาร์ โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ 48,352.79 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่
ขณะที่สหรัฐฯ เป็นแหล่งนำเข้าลำดับ 3 ของไทย มีมูลค่าการนำเข้าจากสหรัฐฯ 19,307.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่