ดันแก้ปัญหาอุตสาหกรรมกุ้ง“วาระแห่งชาติ”ทวงคืนแชมป์ส่งออกโลก

นายครรชิต เหมะรักษ์ นายกสมาคมเครือข่ายผู้เลี้ยงกุ้งไทย  ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า  ในที่ประชุมประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ โดยมี นายพิชัย  ชุณหวชิร  รองนายกรัฐมนตรีประธานกรรมการฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการได้มีการพิจารณานโยบายและแผนการบริหารจัดการประมง พ.ศ.2566-2570 ในประเด็นนโยบายการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ทางสมาคม ได้นำเสนอให้การ "เพาะเลี้ยงกุ้งทะเล" เป็น "วาระแห่งชาติ" ในการฟื้นฟู แก้ปัญหาและพัฒนาการเลี้ยงกุ้งไทย เช่น การลดต้นทุนการผลิต การยกระดับคุณภาพมาตรฐานผลิต การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาใช้ในการเลี้ยงกุ้ง ด้วย

“จากปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งต้องประสบปัญหา ต้นทุนการผลิตสัตว์น้ำสูงขึ้น เช่น ต้นทุนค่าอาหาร พลังงาน แรงงาน สถานการณ์การเกิดสงคราม ส่งผลต่อการนำเข้าวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ ทำให้ราคาอาหารสัตว์ในไทยมีการปรับตัวสูงขึ้นทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน”

นายครรชิต กล่าวว่า ราคาผลผลิตสัตว์น้ำตกต่ำเกิดจากความผันผวนของระบบเศรษฐกิจโลก การสต็อกสินค้าที่เกิดจากภาวะสงครามซึ่งส่งผลต่อกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตและราคาผลผลิตสัตว์น้ำ  และที่สำคัญที่มีอุปสรรคก็คือต้องดำเนินการให้สอดคลั้องกับมาตรฐานของประเทศคู่ค้าด้วย ดังนั้นเพื่อให้การแก้ปัญหาอย่างครบวรจรและเป็นรูปธรรมจึงเห็นว่าควรเสนอให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อกอบกู้ และอุตสาหกรรม ที่ไทยเคยมีผลผลิต กุ้งสูงสุด ในปี 2553 จำนวน  640,000 ตัน ส่งออกได้ถึง 427,580 ตัน  มูลค่า 100,948 ล้านบาท และในปี 2554 ไทยสามารถสร้างมูลค่าการส่งออกสูงสุดที่ 110,278 ล้านบาท มาแล้ว

ขณะที่กองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง กรมประมง รายงานสถานการณ์การส่งออกกุ้งของไทยเดือน ต.ค.67 ปริมาณสูงสุดในรอบ 1 ปี แต่การส่งออกในภาพรวมแทบจะไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว (คาดว่าการส่งออกปี 2567 ทั้งปี ไม่เกิน 137,200 ตัน)

โดยการส่งออกไปตลาดหลักลดลง ส่วนตลาดรองเพิ่มขึ้นได้แก่ กลุ่มอาเซียน ออสเตรเลีย แคนาดาและสหราชอาณาจักร เป็นต้น