สมาคมกุ้งไทย ขอ 2 พันล้าน แก้ปัญหาทั้งระบบ หยุดปัญหาโรค ทำเสียหาย 6 แสนล้าน

11 ธ.ค. 2567 | 11:10 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ธ.ค. 2567 | 11:33 น.

สมาคมกุ้งไทย เผยผลผลิตกุ้งไทยปี 67 ลดลงเล็กน้อย จากปัญหาโรคระบาด และราคากุ้งตกต่ำ ขอรัฐ 2,000 ล้าน แก้ปัญหาอุตสาหกรรมให้เป็นรูปธรรมใน 3 ปี หยุดความเสียหาย 6 แสนล้าน ดันผลผลิตคุณภาพสูงคัมแบ็ก 4 แสนตันต่อปี แข่งตลาดโลก

รายงานข่าวจากสมาคมกุ้งไทย (11 ธ.ค.) นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย ได้นำทีมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ แถลงสถานการณ์กุ้งไทยปี 2567  โดยสาระสำคัญระบุว่า ผลผลิตกุ้งเลี้ยงโดยรวมในปี 2567 อยู่ที่  270,000  ตัน ลดลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาโรคระบาด และจากสภาพอากาศแปรปรวน กระทบคุณภาพลูกกุ้ง และการเลี้ยงของเกษตรกร 

ขณะที่จากราคากุ้งตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรบางส่วนชะลอการลงกุ้ง อย่างไรก็ดี ทางสมาคมฯได้ชื่นชมรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ประกาศนโยบายการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลให้เป็นวาระแห่งชาติ ทั้งนี้เสนอของบประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหากุ้งทั้งระบบ เฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งเน้นแก้ปัญหาโรคกุ้งอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ภายใน 3 ปี เพื่อหยุดความเสียหายจากโรคกุ้งในช่วงที่ผ่านมาคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 600,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มผลผลิตกุ้งคุณภาพให้ได้ปีละ 400,000 ตันเหมือนในอดีต และทวงคืนมูลค่าการส่งออก 50,000 ล้านบาทต่อปีกลับคืนมา

นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยในรายละเอียดว่า สถานการณ์การผลิตกุ้งของไทยปี 2567 ปริมาณผลผลิตกุ้งคาดว่าจะได้ประมาณ 270,000 ตัน ลดลงร้อยละ 4 จากปีที่แล้ว เป็นผลผลิตกุ้งจากภาคใต้ตอนบน ร้อยละ 37  ภาคใต้ตอนล่างฝั่งอันดามัน ร้อยละ 23 จากภาคตะวันออก ร้อยละ 20  จากภาคกลาง ร้อยละ 10  ภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย ร้อยละ 10 

ส่วนผลผลิตกุ้งทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ  5.04 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 4 โดยผลผลิตจากประเทศผู้ผลิตหลักทั้งจีน เอกวาดอร์ อินเดีย เวียดนาม ลดลงทุกประเทศ  

เอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย

ส่วนการส่งออกกุ้งของไทย ตัวเลขล่าสุดช่วง 10 เดือนแรกปี 2567 (ม.ค.- ต.ค.) มีปริมาณ 109,048  ตัน มูลค่า 33,954 ล้านบาท โดยปริมาณลดลง ร้อยละ 1 ส่วนมูลค่าลดลง ร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ที่ส่งออกปริมาณ 109,663  ตัน มูลค่า 36,284 ล้านบาท 

 

นายบรรจง  นิสภวาณิชย์ ที่ปรึกษาสมาคม และประธานสมาพันธ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย กล่าวถึง สถานการณ์การเลี้ยงกุ้งภาคตะวันออก คาดการณ์ผลผลิตประมาณ 53,900 ตัน คิดเป็นร้อยละ 20 ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 20 เนื่องจากเกษตรกรปล่อยกุ้งลดลง และชะลอการลงกุ้ง ปัญหาโรคระบาด EHP ตัวแดงดวงขาว และโรคตายด่วน

สมาคมกุ้งไทย ขอ 2 พันล้าน แก้ปัญหาทั้งระบบ หยุดปัญหาโรค ทำเสียหาย 6 แสนล้าน

อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายปีเกษตรกรเริ่มลงกุ้งต่อเนื่องเพราะราคาจูงใจ  สำหรับสถานการณ์การเลี้ยงกุ้งภาคกลางในปี 2567 คาดการณ์ผลผลิตประมาณ 26,900 ตัน คิดเป็นร้อยละ 10 ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ ลดลงร้อยละ 19 ช่วงไตรมาสแรกการเลี้ยงดี แต่ไตรมาสที่ 2 และ 3 ประสบปัญหาโรคขี้ขาว และสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้อัตรารอดต่ำ ลูกกุ้งไม่เพียงพอ ราคากุ้งค่อนข้างดี โดยเฉพาะตลาดในประเทศ ส่งผลให้เกษตรกรมีการเตรียมตบ่อเพื่อลงกุ้งมากขึ้น 

สมาคมกุ้งไทย ขอ 2 พันล้าน แก้ปัญหาทั้งระบบ หยุดปัญหาโรค ทำเสียหาย 6 แสนล้าน

นายปกครอง  เกิดสุข อุปนายกสมาคมกุ้งไทย และประธานที่ปรึกษาชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่  กล่าวว่า สถานการณ์การเลี้ยงกุ้งภาคใต้ตอนล่างฝั่งอันดามัน คาดการณ์ผลผลิตประมาณ 61,100 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 7 โดยมีความเสียหายจากโรคตัวแดงดวงขาวในช่วงเปลี่ยนฤดู และปัญหาเชื้อโรคปนเปื้อนในแหล่งน้ำธรรมชาติ เกษตรกรมีการวางแผนการเลี้ยงโดยลดความหนาแน่น เพื่อลดความเสี่ยงการเลี้ยงช่วงปลายปี บางส่วนเปลี่ยนไปเลี้ยงกุ้งกุลาดำ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องโรค  

สมาคมกุ้งไทย ขอ 2 พันล้าน แก้ปัญหาทั้งระบบ หยุดปัญหาโรค ทำเสียหาย 6 แสนล้าน

นายปรีชา  สุขเกษม อุปนายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวถึง ผลผลิตกุ้งภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย ปริมาณ 28,400 ตัน คิดเป็นร้อยละ 10 ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ ลดลงร้อยละ 2 ปัญหาหลักคือ ปัญหาโรคระบาด โดยเฉพาะขี้ขาว และ EHP ทำให้เกษตรกรต้องจับกุ้งก่อนกำหนด และสภาพอากาศแปรปรวนส่งผลให้การเลี้ยงกุ้งยากขึ้น เกษตรกรต้องปรับตัวโดยการพักบ่อนานขึ้น ลดความหนาแน่นในการเลี้ยงกุ้งเพื่อลดความเสี่ยง

ส่วนนายพิชญพันธุ์   สลิลปราโมทย์ กรรมการบริหารสมาคม และประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี กล่าวถึง ผลผลิตกุ้งพื้นที่ภาคใต้ตอนบนประมาณการผลผลิต 99,700 ตัน คิดเป็นร้อยละ 37  ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 โดยเกษตรกรลงกุ้งเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมาเนื่องจากราคากุ้งปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศแปรปรวนส่งผลให้การเลี้ยงยากขึ้น และพบเชื้อในแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้เกษตรกรให้ความสำคัญกับระบบการป้องกันโรคมากขึ้น

ผู้บริหารสมาคมกุ้งไทย

สำหรับความเสียหายที่อุตสาหกรรมเผชิญมาตลอดสิบกว่าปี จากปัญหาโรคระบาด EMS หรือโรคตายด่วน ตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรพยายามทุ่มเททุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง และได้รับความช่วยเหลือจากกรมประมง แต่ยังไม่สามารถก้าวผ่านปัญหาโรคระบาดได้ สิ่งที่ภาครัฐต้องทำอย่างเร่งด่วน และเป็นข้อเสนอของพันธมิตรผู้เลี้ยงกุ้งไทย ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 19 องค์กรเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่มีมติร่วมกันในการยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงเกษตรฯ และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้รับการตอบรับจากกระทรวงฯ โดยได้มีการประกาศยกระดับเรื่องการแก้ปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ

ทั้งนี้ถือเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่ทำให้เริ่มมีความหวังว่าจะเห็นผลการดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรม โดยพันธมิตรผู้เลี้ยงกุ้งไทยเสนองบประมาณสำหรับการแก้ปัญหาอุตสาหกรรมกุ้ง 2,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาเรื่องโรคกุ้งภายใน 3 ปี เพื่อหยุดความเสียหายประมาณ 600,000 ล้านบาท ตลอดสิบปีที่ผ่านมา เพื่อนำเงินเข้าประเทศปีละ 50,000 ล้านบาทให้กลับคืนมา