“เวก้า”เนรมิตหมู่บ้านเอเชีย งาน“ลิตเติลเวิลด์” คูเวต คาดเงินสะพัดแสนล้าน

รายงานข่าวเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท เวก้า กรุ๊ป  ออแกไนเซอร์จากประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญการจัดงานแสดงสินค้าและโครงการต่าง ๆ ในตะวันออกกลางกว่า 20 ปี

โดยนายอัครวุฒิได้เปิดเผยว่า บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาบริหารจัดการโครงการ “Little World, Kuwait” มหกรรมแสดงสินค้าและวัฒนธรรมนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศคูเวต เป็นงานเทศกาลฤดูหนาวครั้งแรกและจัดอย่างยิ่งใหญ่ระดับโลก ณ Kuwait International Fair (KIF), Mishref  

งานดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2568 รวม 102 วัน
โดยได้รวมหมู่บ้านเอเชีย (Asia Pavilion) และนานาชาติ ประชันสินค้าและวัฒนธรรมสุดมหัศจรรย์ โดยในแต่ละวันได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวชาวคูเวต ตะวันออกกลาง และทั่วโลกกว่าแสนคน คาดว่าจะมีรายได้สะพัดทั้งงานกว่าแสนล้านบาท

นายอัครวุฒิ กล่าวอีกว่า งาน “Little World ,Kuwait” เป็นโครงการนำร่องการเปิดตลาดใหม่ ขายปลีกทำกำไร และต่อยอดเป็นการส่งออกสู่คูเวตอย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ส่งเสริมเศรษฐกิจและการลงทุน รวมถึงสร้างเครือข่ายความร่วมมือนานาประเทศ

ภายในโครงการประกอบไปด้วย หมู่บ้านเอเชีย ตุรกี GCC คูเวต ยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย และจีน ด้วยแนวคิดที่นำประเทศต่าง ๆ มารวมกัน โดยจัดสร้างพื้นที่ทางเดินให้เป็นทะเล มีเรือล่องตรงกลาง ได้บรรยากาศเที่ยวล่องรอบโลก มีสวนอาหารนานาชาติ การแสดง สวนสนุก และสวนสัตว์ (Zoo of the world)

ทั้งนี้หมู่บ้านเอเชีย ประกอบด้วยประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกไกล เอเชียใต้ เป็นต้น โดดเด่นด้วยงานฝีมือที่งดงามและหลากหลาย โซนอาหรับ เช่น ตุรกี และ GCC สร้างความประทับใจในสินค้าแบบโบราณดั้งเดิมและงานฝีมือร่วมสมัย โซนยุโรป นำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งที่หลากหลาย สินค้าไฮไลท์เช่น เครื่องประดับ ของใช้ สิ่งทอ เครื่องเทศ ชีส ฯลฯ

สำหรับในการจัดงานดังกล่าว ได้รับเกียรติจากนายเอกพล พูลพิพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ คูเวต พร้อมคณะ เข้าร่วมพิธีเปิด

“ประเทศคูเวตตั้งอยู่ จุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นจุดตัดเชื่อมต่อสู่ภูมิภาคเอเชีย ยุโรปและแอฟริกา คูเวตมีเศรษฐกิจที่มั่นคงด้วยค่าเงินที่แข็งแกร่ง มีเสถียรภาพทางการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีนโยบายไม่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(Vat) สำหรับสินค้าและบริการ เหมาะกับการทำธุรกิจร่วมเพื่อกำไรทางการค้าอย่างสูงสุด

อีกทั้งคูเวตเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของมิตรภาพและน้ำใจอันดีของคนท้องถิ่น คูเวตจึงเป็นตลาดแห่งโอกาสทางการค้าแห่งใหม่ที่น่าจับตามองของประเทศไทยและต้องการการผลักดันส่งเสริมขยายตลาดการค้าในปัจจุบันและอนาคต” นายอัครวุฒิ กล่าวตอนท้าย