ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือและรายงานผลการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรลูกหนี้ธนาคาร 4 แห่ง ร่วมกับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ว่า ตนได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรลูกหนี้ธนาคาร 4 แห่ง พร้อมทั้งติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำหนดแนวทางการช่วยเหลือและแก้ไขหนี้สินเกษตรกรอย่างมีประสิทธิภาพให้แล้วเสร็จ ภายในกรอบระยะเวลา 22 มีนาคม 2568 นี้
“จากข้อมูลเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 68 พบว่า จากจำนวนเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 50,621 ราย มีเกษตรกรแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 29,333 ราย และมีเกษตรกรแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม เพื่อทดแทนผู้ไม่มาใช้สิทธิ์ จำนวน 18,914 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างนำส่งรายชื่อเกษตรกรให้กับธนาคารของรัฐ 4 แห่ง เพื่อตรวจสอบสถานะหนี้ NPL ตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดต่อไป”
อนึ่ง พลิกแฟ้ม คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 และ 14 มีนาคม 2566 แก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสำหรับ ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง สำหรับชำระหนี้แทนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ จํานวน 50,621 ราย ยอดหนี้เงินต้นจำนวน 9,282.92 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี นับจากวันที่ ครม. อนุมัติ แบ่งการดำเนินการออก เป็น 3 ระยะ ปีที่ 1 จำนวน 10,000 ราย ขอใช้งบกลางฯ รายการเงินสำรองจ่าย ปีที่ 3 เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นปี 65 รวม 2,000 ล้านบาท ปีที่ 2 จำนวน 22,000 ราย และ จํานวน 18,621 ราย
ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นหนึ่งในระบบและประสงค์ที่จะให้กองทุนช่วยเหลือแก้ ปัญหาหนี้สินและได้นำหนี้มาขึ้นทะเบียน ซึ่งเป็นหนี้เร่งด่วน ผิดนัดชำระหนี้และ เป็นลูกหนี้ธนาคารของรัฐทั้ง 4 แห่ง ตรวจ สอบแล้วกำลังรอการแก้ปัญหาทั้งสิ้นจํานวน 50,621 ราย รวมมูลหนี้เงิน ต้นจํานวน 9,282.92 ล้านบาท ประกอบด้วย
สำหรับแนวทางการดำเนินการ ในการปรับ โครงสร้างหนี้กับสถาบันเจ้าหนี้โดยพัก ชำระเงินต้นครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) และ ดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน และให้เกษตรกร ผ่อนชำระหนี้เงินต้นครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ50) ตามระยะเวลาที่ตกลง แต่ไม่เกิน 15 ปี เมื่อเกษตรกรชำระหนี้คืนเสร็จสิ้นแล้ว เงินต้น (ร้อยละ 50 ที่พักไว้) และดอกเบี้ย ที่พักไว้ จะได้รับการยกให้เกษตรกร ทั้งหมด โดยสถาบันเจ้าหนี้จะได้รับการ ชดเชยเงินต้นจากรัฐบาลสำหรับการ ชดเชยดอกเบี้ยให้เป็นไปตามมติ ครม. โดยเงื่อนไขสำคัญ เกษตรกรที่เข้า ร่วมโครงการจะต้องไม่ก่อหนี้เพิ่มกับ สถาบันการเงินอื่นใดอีก