“พนักงานคือหัวใจ” ประโยคที่ผู้นำหลายๆ องค์กรพยายามตอกย้ำ ส่วนแนวทางการดูแลและบำรุง “หัวใจ” ต้องดูกันที่วิธีการ และเสียงตอบรับของพนักงาน ซึ่ง “ธนพล ศิริธนชัย” หรือ “คุณวู้ดดี้” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT บอกเลยว่า ด้วยการดำเนินธุรกิจที่ยึด ESG (Environment, Social, และ Governance) เป็นแนวทาง S : Social คือแกนหลักที่เขาให้ความสำคัญมากๆ และ S ที่ว่านี้ ก็คือ แนวทางการดูแลพนักงานขององค์กรที่สำคัญ
“คุณวู้ดดี้” เล่าว่า ตอนนี้หลายๆ องค์กรต่างให้ความสำคัญกับ ESG เป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่ คนจะให้ความสำคัญและพูดถึงเรื่อง E : Environment หรือสิ่งแวดล้อม ซึ่งแน่นอนว่า E ก็เป็นแกนหลักที่ FPT ใส่ใจและยึดเป็นหลักในการดำเนินธุรกิจมาตลอด เช่นเดียวกับ G : Governance กับการดำเนินธุรกิจด้วยความมีธรรมาภิบาล
หากแต่สิ่งที่ ให้ความสำคัญมากๆ และพยายามขับเคลื่อนทั้งภายในองค์กรและนอกองค์กร นั่นคือ S : Social เพราะเขามองว่า หากสามารถสร้างสังคมได้ดี คนมีความสุข สุขภาพดี พนักงานแฮปปี้ การทำ E และ G ก็สามารถเกิดตามมาได้ไม่ยาก วันนี้เขาจึงพุดคุยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เพื่อสื่อสารให้เห็นแนวทางที่ชัดเจนของการใส่ใจสังคม และดูแลพนักงานดุจดั่งหัวใจขององค์กร
ย้อนกลับไปกับแผนการดำเนินงานของ FPT Next 2025 ที่มี 3 มิติหลัก คือ People : มุ่งดูแลพนักงาน Planet : ดำเนิน ธุรกิจโดยยึดมั่นและคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และ ธรรมาภิบาล พร้อมเดินหน้าสู่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 6 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 6 แสนต้นในปี 2568 และ Purpose: การส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ
เพื่อให้เป็นที่จดจำและเป็นสัญลักษณ์ ที่สะท้อนถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านแกนหลักขององค์กรคือว่าด้วยเรื่องของ People “คุณวู้ดดี้” เล่าว่า ที่ FPT สร้างที่ทำงานที่เป็น Happy Work Place สำหรับพนักงานทุกคน พร้อมกับสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี เส้นทางการเติบโตของพนักงาน และการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างต่อเนื่อง
เมื่อธันวาคม 2565 “คุณวู้ดดี้” ยังได้ปรับปรุงสวัสดิการสำหรับพนักงาน เพื่อให้สอดรับกับความต้องการและวิถีชีวิตแบบใหม่ อาทิ การให้สิทธิเลือกรูปแบบการรักษาพยาบาล การขยายสิทธิสะสมวันลา เพิ่มรูปแบบการลาแบบใหม่ๆ อาทิ จดทะเบียนชีวิตคู่ ผ่าตัดแปลงเพศ รวมถึงดูแลครอบครัว ฯลฯ เพื่อส่งเสริมสิทธิเท่าเทียมและเพิ่มความสุขในการทำงานของพนักงานทุกคน ส่งเสริม “ความหลากหลายและการอยู่ร่วมกัน” หรือ Diversity & Inclusion (D&I)
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากๆ คือ การตั้งกองทุนช่วยเหลือพนักงาน Frasers Property Thailand เป็นกรณีพิเศษ โดย “คุณวู้ดดี้” เล่าว่า โครงการนี้สืบเนื่องมาจากกิจกรรมการวิ่งเพื่อให้พนักงานได้ออกกำลังกายมีสุขภาพที่ดี จนเกิดไอเดียการกระตุ้นให้ทุกคนมีความอยากทำมากขึ้น มากกว่าแค่การออกกำลังกาย แต่ทำเพื่อช่วยเพื่อนร่วมงาน จนเกิดเป็นโครงการ “วิ่งเพื่อเพื่อน (Run for Friends)”
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 ขณะที่ยังเป็นกิจกรรมของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ Goldenland ซึ่งได้จัดโครงการชวนเพื่อนพนักงานวิ่ง เพื่อสะสมเงินเข้าหน่วยงานสาธารณกุศล โดยทุก 1 กิโลเมตร บริษัทจะสมทบเงินให้ 10 บาท ซึ่งปีนั้นมีพนักงานร่วมวิ่งมากถึง 515 คน วิ่งสะสมระยะทางได้มากถึง 22,585.53 กิโลเมตร และมีเงินสมทบ 225,853.30 บาท โดยได้มอบเงินให้กับ 2 หน่วยงานที่ส่งเสริมด้านการศึกษา ได้แก่ มูลนิธิพระดาบส และมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
จนมาปี พ.ศ.2561 จึงเกิดการต่อยอดจัดตั้ง “กองทุนพิเศษเพื่อพนักงาน” โดยทุกการวิ่งของพนักงาน บริษัทจะสมทบเงินเข้ากองทุนฯ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนพนักงาน บิดา มารดา คู่สมรส และบุตรของพนักงานที่มีความเดือดร้อนและจำเป็นต้องใช้เงินในเหตุฉุกเฉินต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขสวัสดิการปกติของบริษัท ขณะเดียวกัน ได้นำเงินบางส่วนช่วยเหลือองค์กรเพื่อสาธารณประโยชน์ ที่พนักงานได้มีส่วนร่วมในการโหวตด้วย
โครงการนี้ มีการพัฒนามาต่อเนื่อง มีการขยายกิจกรรมออกกำลังกายให้หลากหลาย เช่น เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ พร้อมทั้งเปิดให้เพื่อนและสมาชิกครอบครัวพนักงานมีส่วนร่วมกับกิจกรรมด้วย ขณะเดียวกัน ได้เปลี่ยนชื่อกองทุนเป็น “กองทุนช่วยเหลือพนักงาน Frasers Property Thailand เป็นกรณีพิเศษ” โดยปีล่าสุด
จัดไปเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์-1 พฤษภาคม 2566 มีพนักงานและสมาชิกครอบครัวพนักงานรวมกิจกรรม 1,199 คน สามารถสะสมระยะทางรวมกันได้มากถึง 152,338 กิโลเมตร สูงจากเป้าหมายที่วางไว้ซึ่งอยู่ที่ 150,000 กิโลเมตร บริษัทได้สมทบเงินเข้ากองทุนฯ 500,000 บาท และเมื่อรวมระยะทางสะสมการออกกำลังกายตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรม 6 ครั้ง สามารถทำได้ถึง 465,684 กิโลเมตร พร้อมเงินสะสมสำหรับสนับสนุนหน่วยงานสาธารณกุศลและกองทุนช่วยเหลือพนักงาน Frasers Property Thailand เป็นกรณีพิเศษสูงถึง 2,072,571 ล้านบาท รวมถึงได้ช่วยเหลือพนักงานและครอบครัวรวม 15 คน
“คุณวู้ดดี้” บอกว่า FPT ยังเสริมด้วยการจ้างโค้ชมาสอนการเดินการวิ่งที่ถูกวิธี มีการซ้อม และวอร์มร่างกายก่อนวิ่งจริง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ ไม่เพียงพนักงานมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่ยังเสริมสร้างกำลังใจให้กับพนักงานที่มีความลำบาก มีความเห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในองค์กร และแต่ละคนยังมีการตั้งเป้าหมาย และเกิด Commitment ที่ดี ซึ่งถือเป็นผลทางอ้อมต่อการทำงาน
นโยบายใหม่ของ FPT รวมถึงโครงการ “วิ่งเพื่อเพื่อน (Run for Friends)” ถือเป็นเครื่องมือสนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานทำงานได้อย่างมีความสุข นำไปสู่การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับช่วยดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพหลากหลายเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตให้กับองค์กรในอนาคต
นี่คือแนวทางและแนวคิดของผู้นำ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” กับการสร้างองค์กรให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,898 วันที่ 22 - 24 มิถุนายน พ.ศ. 2566