นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้ดำเนินการร่วมกับร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชนปลูกป่าและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำสู่ธรรมชาติ
ทั้งนี้ ถือเป็นการดำเนินการต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ผ่านกิจกรรม ร่วมกันปล่อย(ปลา ปู) และปลูก (ต้นโกงกาง) คืนสมดุลสู่ธรรมชาติ ที่ศูนย์ประสานงานเพื่อการอนุรักษ์ป่าชายเลนของ กองทัพบก (ภาคกลาง) ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี
สำหรับกิจกรรมดังกล่าวนั้น มุ่งฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ รวมทั้งแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติป่าโกงกางผืนใหญ่ที่สุดในประเทศไทยพื้นที่กว่า 400 ไร่
ด้วยการปลูกเพิ่มเติมรักษาจำนวนผืนป่าชายเลนให้มีความอุดมสมบูรณ์ต่อไป ซึ่งเป็นแผนต่อเนื่องจากโครงการพระราชดำริแหลมผักเบี้ย ที่รัฐบาลดำเนินโครงการปลูกป่าถาวร 1 ล้านไร่แรก มากว่า 30 ปี
การจัดกิจกรรมครั้งดังกล่าวมีเป้าหมาย คือ การดูแลผืนป่าเพื่อให้เกิดการอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง เกิดความยั่งยืน ควบคู่กับการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลผืนป่า เกิดความรู้ความเข้าใจรักษาสิ่งแวดล้อม
สร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นในระบบนิเวศ ส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ซึ่งเป็นอาชีพหลักของ จ.เพชรบุรี ที่สำคัญ สามารถต่อยอดด้วยการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
“กิจกรรมดังกล่าวดำเนินการต่อเนื่องจากวันสิ่งแวดล้อมโลก ที่มีการปลูกป่าชายเลนไปแล้ว ณ เขตบางขุนเทียน สอดคล้องกับทิศทางของ กนอ. ที่มุ่งมั่นส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน”
นายวีริศ กล่าวอีกว่า กนอ. มุ่งเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emission ในปี 2050 โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วน พัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับประเทศไทย ยกระดับนิคมอุตสาหกรรมให้ได้มาตรฐานสากล ด้วยนวัตกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง