จากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งภาวะโลกร้อน สภาพอากาศแปรปรวน รวมไปถึงมลพิษทางอากาศอย่าง PM2.5 ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการเผาในพื้นที่เกษตร จากปัญหาดังกล่าว บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด จึงมีแนวคิดกิจกรรมโซลูชันเกษตรปลอดการเผาตั้งแต่ปี 2559
ทั้งนี้เพื่อรณรงค์และพัฒนากระบวนการผลิตโดยวิธีการทำเกษตรปลอดการเผา ตลอดจนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่วัสดุเหลือใช้หลังการเก็บเกี่ยว เช่น ฟางข้าว ตอซังข้าว และใบอ้อย ด้วยการนำเอานวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและองค์ความรู้ด้านการเกษตร ภายใต้องค์ความรู้ KUBOTA (Agri) Solutions เกษตรครบวงจร มาปรับใช้
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก ในส่วนของบริษัทฯได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และได้ผลักดันแผน KUBOTA NET ZERO EMISSION ที่มีเป้าหมายสร้างโลกเกษตรที่ยั่งยืน ขยายองค์ความรู้เกษตรปลอดการเผา สู่นโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตรสุทธิเป็นศูนย์
โดยในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2563 ได้จัดกิจกรรมรณรงค์และสัมมนาโครงการฯ รวมถึงดำเนินการจัดลงนามความร่วมมือโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) ไปแล้ว 11 จังหวัด ได้แก่
"ผลจากกิจกรรมที่เราร่วมรณรงค์ ส่งผลให้ลดจุดการเผาในภาคการเกษตรในจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังสร้างรายได้และคืนสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้พี่น้องเกษตรกร"
นางวราภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว ในปีนี้จึงได้เดินหน้ามายังจังหวัดสระแก้วเป็นจังหวัดที่ 12 ทั้งนี้มุ่งหวังยกระดับโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) สู่เป้าหมาย KUBOTA NET ZERO EMISSION อย่างไรก็ดียังมีการเร่งศึกษาทดลองนวัตกรรมและเทคโนโลยี และโซลูชันการเกษตรต่างๆ เพื่อทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น และนำไปส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกเหนือจากการขยายมาสู่จังหวัดสระแก้ว สยามคูโบต้ายังเตรียมผลักดันแนวคิดเกษตรปลอดการเผาสู่การสร้าง “เมืองต้นแบบปลอดการเผาสู่ Net Zero Emission” ด้วยการขยายพื้นที่ความร่วมมือของโครงการฯ ในปี 2567 เพิ่มอีก 1 จังหวัด ได้แก่จังหวัดสระบุรี
"เราพร้อมเดินหน้าเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% ภายในปี 2573 และขยายผลให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emission ภายในปี 2593 สอดรับกับเป้าหมายแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยและเพื่อดำเนินตามนโยบายคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น ในการมุ่งสู่แบรนด์ชั้นนำระดับโลกหรือ Global Major Brand (GMB)"
ด้านนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ความร่วมมือกันในโครงการ KUBOTA Net Zero Emission ถือเป็นประโยชน์อย่างมากต่อจังหวัดสระแก้ว เนื่องจากจังหวัดสระแก้วมีพื้นที่เกษตรกรรม คิดเป็นร้อยละ 70 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งในปี 2566 พบว่าจังหวัดสระแก้วมีจุดความร้อนจากการเผา จำนวน 910 จุด เป็นจุดความร้อนภาคเกษตร 590 จุด จะเห็นได้ว่าเกษตรกรยังมีการเผาตอซังข้าวและเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อความสะดวกในการไถ เพราะหากไม่เผาการไถกลบทำได้ยากและมีค่าจ้างสูงกว่า
อีกทั้งเกษตรกรมีเครื่องมือเครื่องจักรกลการเกษตรในการเตรียมแปลงเพาะปลูกไม่เพียงพอ เพราะส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยที่ยังขาดความเข้าใจถึงผลกระทบจากการเผาที่มีผลให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วย
"จังหวัดสระแก้วเชื่อว่าการลงนามในครั้งนี้จะเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) การนำนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและองค์ความรู้ด้านการเกษตรมาปรับใช้เพื่อการทำการเกษตรลดโลกร้อน และลดปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 เพื่อสร้าง “สระแก้ว เมืองต้นแบบปลอดการเผาสู่ Net Zero Emission” ให้เกิดขึ้นได้จริง”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง