sustainability

แบงก์กรุงเทพผุด สินเชื่อสีเขียว 1 หมื่นล้านบาท

    แบงก์กรุงเทพหนุนผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เตรียมวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ปล่อยสินเชื่อสีเขียว ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนานถึง 8 ปี

ธนาคารกรุงเทพเร่งผลักดันผู้ประกอบการไทยเดินหน้าสู่ธุรกิจสีเขียวอย่างจริงจัง เปิดตัว “สินเชื่อบัวหลวงกรีนเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม” วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย MLR-1.25% 2ปีแรก กู้ได้ยาวสูงสุด 8 ปี มุ่งช่วยธุรกิจปรับตัวรับเทรนด์โลกสีเขียว ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ต่อยอดทางธุรกิจในระยะยาว

แบงก์กรุงเทพหนุนสินเชื่อสีเขียว

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยเฉพาะการสนับสนุนสินเชื่อแก่กิจกรรมสีเขียว (Green Loan) มาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการให้ความรู้และข้อมูลที่จำเป็นแก่ลูกค้า

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ตลอดจนอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่สินเชื่อเพื่อให้พร้อมสำหรับการให้คำปรึกษาแนะนำแก่ลูกค้า

ล่าสุดธนาคารกรุงเทพ ได้สร้างสรรค์ “สินเชื่อบัวหลวงกรีนเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม” (Bualuang Green Financing for Transition to Environmental Sustainability) เปิดตัวครั้งแรกภายในงาน Financing the Transition (การเงินเพื่อการปรับตัวสู่ความยั่งยืนของภาคธุรกิจ) จัดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

สินเชื่อดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่ต้องการเงินทุนสำหรับการปรับตัวเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ใน 3 ด้าน คือ

  1.  ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก            
  2. ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  3. ลดการสร้างมลพิษ 

เตรียมวงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท

โดยมีข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ สามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 8 ปี โดยธนาคารได้จัดเตรียมวงเงินสินเชื่อไว้รองรับความต้องการของลูกค้าถึง 10,000 ล้านบาท

“ธนาคารกรุงเทพมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยส่งผ่านจากนโยบายมาสู่การดำเนินงานทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเปิดตัว “สินเชื่อบัวหลวงกรีนเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม” ในครั้งนี้ที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของธปท.ที่ต้องการผลักดันให้ธุรกิจปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว”นายชาติศิริกล่าว

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์ในที่ประชุมรัฐภาคกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 หรือ COP26 ว่าจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี 2065

แม้จะยังมีเวลาอีกหลายสิบปี แต่ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ธุรกิจจะต้องเริ่มปรับตัวตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากในบางเขตเศรษฐกิจ เช่น สหภาพยุโรป (EU) ได้ประกาศมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism – CBAM) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป

ดังนั้น หากสินค้าในรายการที่กำหนดมีการปล่อยคาร์บอนเกินกว่าที่ EU กำหนด ผู้นำเข้าจะต้องซื้อ CBAM Certificate มาชดเชย ซึ่งหมายถึงการนำเข้าสินค้าของเราจะมีต้นทุนที่สูงขึ้นจนอาจแข่งขันได้ลำบาก และมาตรการลักษณะนี้กำลังจะถูกบังคับใช้ในอีกหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลียด้วย ดังนั้น แรงกดดันให้ธุรกิจต้องปรับตัวได้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว

นายศิริเดช เอื้องอุดมสิน รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพกล่าวว่า สินเชื่อบัวหลวงกรีนเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สามารถรองรับทั้งกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) รวมถึงผู้ประกอบการประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย และมีสถานประกอบธุรกิจอยู่ในประเทศไทย

แบงก์กรุงเทพผุด สินเชื่อสีเขียว 1 หมื่นล้านบาท

ผู้ประกอบการจะต้องมีโครงการลงทุนปรับปรุงธุรกิจเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมใน 3 ด้าน คือ

  1. การลงทุนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การลงทุนปรับปรุงอาคารให้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน การลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การลงทุนเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ปั๊มความร้อน (Heat Pump) เป็นต้น
  2. การลงทุนเพื่อปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เช่น การลงทุนด้านเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ (Precision Farming Technology) ที่ช่วยลดการใช้น้ำ ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง การทำโรงเรือนระบบ EVAP (Evaporative Cooling System) ที่ช่วยลดอุณหภูมิในโรงเรือน รวมถึงช่วยป้องกันโรคติดต่อจากภายนอก     ลดการสูญเสียของผลผลิต และการลงทุนในเทคโนโลยีและกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ และการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น
  3. การลงทุนเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการสร้างมลพิษ เช่น การลงทุนระบบบำบัดน้ำเสีย และการลงทุนระบบบำบัดมลพิษทางอากาศรวมถึงการลด PM 2.5 เป็นต้น 

“เราเน้นจุดสำคัญว่า ทุกโครงการที่ได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อบัวหลวงกรีนเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมจะต้องสามารถสร้าง Impact ที่เป็นรูปธรรม ธนาคารจะติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่ าสามารถช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้ตามที่ตั้งใจไว้” นายศิริเดชกล่าว 

นอกจากนี้ การลงทุนที่ธนาคารสนับสนุนนี้จะส่งผลดีต่อธุรกิจในด้านการลดต้นทุน ลดความเสี่ยง เพิ่มผลกำไร สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และก้าวทันกับเทรนด์โลก