sustainability

ตลท.เล็งเชื่อมข้อมูลแบงก์ หนุนบริษัทปรับสู่กรีนเข้าถึงสินเชื่อ

    ตลท.สร้างแรงจูงใจ หนุนบริษัทปรับสู่กรีน วางเกณฑ์บริษัทจดทะเบียน รายงานความยั่งยืนทางคาร์บอน เล็งเชื่อมข้อมูลแบงก์ หนุนเข้าถึงสินเชื่อ

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในวงสัมมนา “Panel Discussion: Government's Mechanisms to Achieve SDGs” ในงาน Sustainability Forum 2025: Synergizing for Driving Business จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ว่า ตลท.พยายามโปรโมทเรื่องความยั่งยืน ให้ฝังในดีเอ็นเอของตลาดทุน โดยเราหารือกับกลุ่มบริษัท เพื่อให้เห็นความสำคัญในการปรับเปลี่ยนสูงการเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม 

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

ทั้งนี้ ตลท. ได้ออกมาตรการเพื่อจูงใจให้บริษัทปรับเปลี่ยนสู่กรีน คือ การให้รางวัล sustainability awards อีกทั้งยังมีรางวัลสำหรับซัพพลายเชนเพื่อความยั่งยืน และยังมีการยกระดับรายงานข้อมูลเพื่อความยั่งยืน โดยตลท. ให้บริษัทจดทะเบียนรายงานด้านความยั่งยืนทางคาร์บอนแล้ว ในรายงานประจำปี 

“เรามี 850 บริษัทในตลท. จำนวน 400 บริษัท รายงานคาร์บอนว่าเขาปล่อยเองเท่าใด ประมาณ 200 บริษัท รายงานข้อมูลคาร์บอน ที่เป็นข้อมูลลดลงจาก third party แล้ว มีเพียง 64 บริษัท ที่รายงานคาร์บอนที่ลดลงแล้ว และกำหนดเป้าหมายการลด ซึ่งไม่ถึง 10%ของบริษัทในตลท. ที่รายงานข้อมูล”

ขณะเดียวกัน ตลท. ได้อำนวยความสะดวกผ่านการจัดทำเครื่องคิดเลขคำนวณการปล่อยคาร์บอน ปีนี้มีจำนวน 20 บริษัทใช้ ปี 2568 จะเปิดใช้เป็นการทั่วไป และจะเปิดให้บริษัทเหล่านี้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ด้วย อยู่ระหว่างหารือกับสถาบันการเงินอยู่ เพื่อเชื่อมข้อมูลให้เป็นมาตรฐาน 

ด้านนักลงทุนนั้น ตลท.จะผักดันให้นักลงทุนหันมาลงทุนในหุ้นยั่งยืน คือ การมีเรทติ้ง โดยตลท. จะยกระดับ ESG rating ในปี 2569 ทั้งนี้ การที่จะทำให้ความยั่งยืนเกิดขึ้น ต้องอาศัย 3 ปัจจัย ได้แก่ การตระหนักรู้ การให้แรงจูงใจ โดยตั้งแต่ออกกองทุน THAI ESG มีบริษัทปรับสู่สิ่งแวดล้อมกว่า 30% ท้ายที่สุดต้องลดทุนในการเดินหน้าเพื่อความยั่งยืน