| คอลัมน์ : Let Me Think
| เรื่อง : เปิดกรุสมบัติ!!! แม่ธนาธร "สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ" เจ้าแม่อาณาจักรธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์
| โดย TATA007
……………….
ทุกปี "นิตยสารฟอร์บส์" จะเผยแพร่การจัดอันดับให้ "สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธาน บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด หรือ ไทยซัมมิท กรุ๊ปส์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย ติดโผทำเนียบเศรษฐีเมืองไทยด้วย แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะอยู่ในอันดับที่ลดลง แต่ก็มีเสียงลอดสาย แว่วมาว่า "สมพร" ไม่มีเวลามานั่งแจกแจงทรัพย์สินของตัวเอง ด้วยภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง!!!
ล่าสุด สปอตไลต์สาดแสงมาที่ "สมพร" อีกครั้ง ในฐานะมารดาของ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทำให้มีการจับตาว่า การจัดอันดับทำเนียบเศรษฐีเมืองไทยของนิตยสารฟอร์บส์ที่จะประกาศในเร็ว ๆ นี้ ชื่อ "สมพร" ในวัยย่างเข้าสู่ปีที่ 68 ยังน่าจะติดชาร์ตผู้หญิงที่ติดอันดับรวยที่สุดอีกปี และถ้าดูจากมูลค่าทรัพย์สินปี 2561 ก็น่าจะอยู่ในอันดับไม่เกิน 20 หากเป็นไปตามนี้ก็จะเป็นการจัดอันดับที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา
เมื่อปี 2561 "สมพร" ติดทำเนียบเศรษฐีในอันดับที่ 28 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน (ปี 2560) ที่มีกว่า 40,000 ล้านบาท ด้วยทรัพย์สินรายได้ที่เติบโตจากธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ ที่รับช่วงต่อจากสามี "พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ" (ถึงแก่กรรมปี 2545) ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทไทยซัมมิทฯ จนชื่อเสียงสมพรเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทยและบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชีย ทำให้สมพรก้าวขึ้นสู่ทำเนียบหญิงเหล็กแห่งวงการชิ้นส่วนรถยนต์ทันที
วงในจากอุตสาหกรรมยานยนต์ ระบุว่า เฉพาะในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ด้วยทรัพย์สินที่ถืออยู่ ก็คาดว่ามีมูลค่าราว 7-8 หมื่นล้านบาท แต่ถ้านับรวมอาณาจักรการลงทุนทั้งหมดของสมพร ทั้งที่เปิดเผยและไม่(อยาก)เปิดเผย รวมกันแล้วมีมูลค่านับแสนล้านบาท!
ชื่อเสียงของ "สมพร" เป็นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้นในวงการธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ เมื่อ "เอก" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บุตรคนที่ 2 ลงมาบริหารธุรกิจเต็มตัว ในตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิทฯ (ก่อนที่สถานะปัจจุบันลาออกมาเล่นการเมืองเต็มตัว) เพราะนับตั้งแต่ที่ "ธนาธร" เข้าไปบริหาร ทำให้กลุ่มบริษัทไทยซัมมิทฯ มีรายได้เติบโตขึ้นอย่างมาก จาก 16,000 ล้านบาท ขยับเป็นรายได้ 80,000 ล้านบาท ขยายอาณาจักรธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ออกนอกประเทศ ไปยังจีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, อเมริกา มาเลเซีย และเวียดนาม จนมีบริษัทในเครือแตกแขนงแล้วมากกว่า 40 บริษัท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
⁍ จับตาสินทรัพย์อสังหาฯ
ธุรกิจของ "สมพร" นอกจากชิ้นส่วนรถยนต์แล้ว สินทรัพย์ด้านอสังหาฯ ก็เป็นเส้นทางการลงทุนที่น่าจับตา โดยเฉพาะในพื้นที่โซนภาคตะวันออก ที่ดินแปลงงามที่สมพรและครอบครัวถือครองอยู่ในมือล้วนอยู่ในทำเลทองแทบทั้งสิ้น ไล่ตั้งแต่ที่ดินย่านบางนา ระยอง ชลบุรี โดยเฉพาะบางปะกง ศรีราชา ไปยังปลวกแดง ทั้งที่ดินที่พัฒนาแล้วและยังไม่ได้พัฒนาอีกจำนวนมากมาย อีกทั้งธุรกิจอพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม รีสอร์ต สนามกอล์ฟ ("พัฒนากอล์ฟ แอนด์ สปอร์ท รีสอร์ท" ที่ศรีราชา) ซึ่งที่ดินเหล่านี้ในช่วง 20-30 ปีก่อน มีราคาถูกกว่าปัจจุบันหลายเท่าตัว
"ที่ดินเหล่านี้เป็นทรัพย์สินที่สะสมมากับ คุณพัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ (สามี) โดยเฉพาะที่ดินที่บางนา ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานของบริษัทไทยซัมมิทฯ ที่แรกเริ่มซื้อไว้จำนวน 21 ไร่ ต่อมาด้วยความฉลาดของคุณพัฒนาที่มีนโยบายขยายที่ดินให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จนมีมากกว่า 200 ไร่ เนื่องจากขยายซื้อจนที่ดินบริเวณนั้นไม่สามารถซื้อได้อีกแล้ว ต่อจากนั้นคุณพัฒนาก็เดินเรื่องขอให้พื้นที่ดังกล่าวตั้งเป็นเขตอุตสาหกรรมเฉพาะกิจไทยซัมมิทขึ้นมา เมื่อสนามบินสุวรรณภูมิเกิดขึ้นนทำให้มูลค่าที่ดินตรงนี้สูงขึ้นมา 100 เท่า จากที่เคยซื้อมาในราคา 100,000-400,000 บาทต่อไร่" ความตอนหนึ่งที่ "สมพร" เคยให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
หากนับรวมหลายพื้นที่ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์น่าจะเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากมาย ไม่แพ้ธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ ที่เป็นพันธมิตรกับทุกค่ายรถยนต์ที่เข้ามาปักฐานการผลิตในประเทศไทย โดยอสังหาฯ ลงทุนแล้วก็รอเก็บเกี่ยวดอกผล นี่ยังไม่นับรวมทรัพย์สินที่สมพรถือหุ้นส่วนบุคคลในสถาบันการเงินอีกหลายแห่ง รวมถึงมูลค่าซื้อขายหุ้นในต่างประเทศอีกจำนวนมากมาย
อย่างไรก็ตาม ในยามที่สถานะทางธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ไม่มีมือขวาอย่าง "ธนาธร" ช่วยบริหารประจำวัน ทุกคนในครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยลูก ๆ 5 คนของ "สมพร-พัฒนา" จำเป็นต้องปรับ-โยก และคงไว้บางส่วนในการบริหารงานในธุรกิจต่าง ๆ ไล่ตั้งแต่ 1.ชนาพรรณ ดูแลด้านการเงินทั้งหมด พร้อมกับนั่งเก้าอี้รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด รับหน้าที่แทนสมพรมาตั้งแต่แรก และยังต้องดูแลต่อไป
2.ธนาธร เก่งด้านชิ้นส่วนรถยนต์ โดยเฉพาะการออกไปลงทุนนอกบ้าน วันนี้เลือกที่จะเดินสู่เส้นทางการเมืองในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอนาคตใหม่
3.รุจิรพรรณ รับผิดชอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในโซนชลบุรี ระยอง รวมถึงสนามกอล์ฟพัฒนาสปอร์ตคลับ
4.สกุลธร จากที่เคยดูแลด้านอสังหาริมทรัพย์ ต้องโดดเข้ามาสืบทอดธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์แทนพี่ชาย (ธนาธร)
5.บดินทร์ธร น้องชายคนสุดท้อง จบจากอังกฤษ นั่งทำงานอยู่ธนาคารทีเอ็มบีได้ระยะหนึ่ง ตอนหลังถูกดึงตัวเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจอสังหาฯ ในพื้นที่โซน กทม. และพื้นที่ทั่วไปแทนสกุลธร
⁍ ต้องสานต่อบนความท้าทาย
หากย้อนกลับไปดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มไทยซัมมิทเมื่อ 2 ปีก่อน มีการประกาศชัดเจนว่า ปลายปี 2564 เฉพาะธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ตั้งความหวังว่าจะมีรายได้ทะลุ 100,000 ล้านบาท!!!
นับว่าเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับบรรดาลูก ๆ ของสมพร โดยเฉพาะ "สกุลธร" ที่มารับไม้ต่อจากพี่ชายบริหารธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์แทน ในท่ามกลางความไม่แน่นอน 2 เรื่อง คือ
1.ความไม่แน่นอนในภาพรวมของการขยายตัวอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ ภาพรวมยังชะลอตัวและนับตั้งแต่ปีใหม่มาจนถึงขณะนี้ มีรถยนต์บางค่ายทำงานไม่เต็มสัปดาห์ และตัดสินใจหยุดทำงานบางส่วน แล้วจ่ายเงินเดือนพนักงาน 75% ของเงินเดือนเต็ม อีกทั้งรถยนต์โมเดลใหม่ ๆ ในปีนี้ก็มีไม่มาก
2.ความไม่แน่นอนของภาพรวมเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศ ที่เกี่ยวโยงกับกำลังซื้อของคน ซึ่งภายใต้สถานการณ์สงครามการค้า ทำให้หลายเป้าหมายยังมีความไม่แน่นอนสูงและยังมีความสุ่มเสี่ยงอยู่
บนโจทย์ที่ท้าทายแบบนี้ ยังต้องติดตามต่อไปว่า ... บรรดาลูก ๆ ของ .สมพร-พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ. และผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจหลักอย่างชิ้นส่วนรถยนต์ กลุ่มอสังหาฯ สิ่งพิมพ์ และอื่น ๆ จะช่วยกันต่อยอดอาณาจักรธุรกิจแสนล้านให้สามารถฝ่าปัจจัยลบ หรือ ความไม่แน่นอน ที่เกิดขึ้นในตลาดโลกได้แค่ไหน น่าจับตาติดตามต่อไป!