คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3465 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 28 เม.ย.-1 พ.ค. 2562 โดย... ว.เชิงดอย
'ธนาธร' เจอ 3 เด้ง หากผิดถือหุ้นสื่อ
.....เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติแจ้งข้อกล่าวหาต่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 วันที่ 24 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ด้วยเป็นผู้มีลักษณะ ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42(3) ซึ่งกกต. มีหลักฐานเบื้องต้นฟังได้ว่า ผู้ถูกร้องเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใน บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ จำนวน 675,000 หุ้น และได้เปิดโอกาสให้ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา มีหนังสือชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา ภายใน 7 วัน หรือภายในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้
.....ขณะที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทาง “กกต.” ก็ได้เรียก ศรีสุวรรณ จรรยา ซึ่งเป็นผู้ร้องในคดีนี้ เข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 4 ต่อคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน ของสำนักงาน กกต. ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว หาก กกต.ชั่งนํ้าหนักพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนทั้งฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้องแล้ว และเชื่อได้ว่าคำร้องมีมูล ก็จะต้องยื่นคำร้องต่อ “ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง” เพื่อวินิจฉัยชี้ขาด ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) และจะมีความผิดตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี... นี่คือ “เด้งแรก” หากศาลพิพากษาว่ามีความผิด
.....สำหรับ “เด้งที่ 2” ที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะต้องเจอคือ หากถูกเพิกถอนสิทธิสมัครส.ส. อาจถูกตรวจสอบกรณีลงนามเอกสารรับรองส่งผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ขาดคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้ง ในรายของ ภูเบศวร์ เห็นหลอด อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งถอนชื่อออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครส.ส. เนื่องจาก “ถือหุ้นสื่อ” อันเป็นลักษณะต้องห้ามในการสมัครส.ส. ธนาธร ในฐานะหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ก็จะต้องรับผิดชอบด้วย เห็นว่าเบื้องต้น กกต.จะดำเนินคดีกับ ภูเบศวร์ ก่อน ที่ต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับสูงสุด 200,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ต่อจากนั้นนั่นแหละ จะถึงคิวของ ธนาธร ที่ต้องถูกดำเนินคดีอาญาในฐานะหัวหน้าพรรค ฐานเป็นผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 และมาตรา 86
.....“เด้งที่ 3” กลุ่มการเมืองภาคประชาชน นำโดย สุรวัชร สังขฤกษ์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อขอให้ระงับการรับรองผลการเลือกตั้งของว่าที่ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากกกต.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาหัวหน้าพรรค จึงถือว่าการเลือกตั้งของอนาคตใหม่ทั้งหมด “โมฆะ”เพราะธนาธร เป็นผู้ออกหนังสือรับรองให้กับผู้สมัครของพรรค ซึ่งมีความผิดทั้งในนามหัวหน้าพรรค และนิติบุคคล ถือเป็นเอกสารเท็จ เพราะ ธนาธร ขาดคุณสมบัติ จึงขอให้กกต.ตรวจสอบและส่งคำร้อง “ยุบพรรค” อนาคตใหม่ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาให้ดำเนินคดีอาญากับหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย
.....หากเจอทั้ง “3 เด้ง” นี้เข้าไป ก็ “อ่วมอรทัย” แล้ว สำหรับ ธนาธร และ พรรคอนาคตใหม่ จากที่เหมือนจะเป็น “ดาวรุ่ง” กลับกลายจะมาเป็น “ดาวร่วง” ซะอย่างนั้น...
.....เบรกแทบไม่ทันเมื่อกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้การนำของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เสนอเรื่องให้ครม.อนุมัติมาตรการเพิ่มเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียนโรงเรียนเอกชน จากปัจจุบันที่จ่ายเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียน 28% เพิ่มเป็น 100% โดยอ้างว่าเพื่อความเท่าเทียม แต่โชคดีที่สำนักงบประมาณ “เบรก” เพราะเห็นว่าผู้ปกครองนักเรียนที่ส่งลูกเรียนในสถาบันการศึกษาเอกชน มีศักยภาพในการจ่ายเงินอยู่แล้วไม่ควรที่รัฐจะเพิ่มเงินอุดหนุน เนื่องจากจะเป็นภาระต่องบประมาณในระยะยาว ที่รัฐจะต้องจัดสรรงบในแต่ละปีไม่ตํ่ากว่า 5 พันล้านบาท ซึ่ง “นายกฯ” ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของสำนักงบประมาณ ตีกลับข้อเสนอคืนไปให้กระทรวงศึกษาธิการ
.....ช่วงนี้รัฐมนตรีหลายคนใน “รัฐบาลลุงตู่” เตรียมส่งไม้ต่อให้คนที่จะมาใหม่ ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าจะเป็นใครจากพรรคไหน หนึ่งในนั้นคือ ศิริ จิระพงษ์พันธ์ เจ้ากระทรวงพลังงาน ออกมาฝากฝังภารกิจไปยังเจ้ากระทรวงคนใหม่ให้ช่วยสานต่อภารกิจสำคัญที่ตัวเองได้สั่งการให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เดินหน้าดำเนินการไปแล้ว นั่นคือ การประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ในอ่าวไทย ภายใต้ระบบแบ่งปันผลผลิตหรือ PSC ที่กำหนดให้เสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้... ยํ้าชัดๆ ว่าไทยจำเป็นต้องมีแหล่งปิโตรเลียมใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ หากมีแหล่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้ประเทศชาติได้ก๊าซในราคาถูก และท้ายที่สุดราคาค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายก็จะถูกลงด้วย
.....บอสสาวคนเก่งแห่ง บลจ.บางกอกแคปปิตอล “เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา” วุ่นอยู่กับการเตรียมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวกองทุนใหม่ “BCAP Global Wealth”เน้นการลงทุนที่ครอบคลุมทั่วทุกมุมโลกให้ลูกค้าได้เลือกระดับความเสี่ยงที่รับได้ถึง5 ระดับ มีมืออาชีพดูแลการลงทุนให้เป็นเรื่องง่ายรอติดตามรายละเอียดและความเอ็กซ์คลูซีฟของกองทุน พร้อมกันทั่วประเทศได้เลย...
.....ลุยให้ความรู้ด้านการลงทุนในรั้วอุดมศึกษาต่อเนื่องกับโครงการ “The Stock Master University” ของหลักทรัพย์บัวหลวง ล่าสุดปิดฉากความสำเร็จไปอีก 2 สถาบันชั้นนำอย่าง ม.รังสิต และ ม.บูรพา งานนี้บอสใหญ่ “คุณโบ้” พิเชษฐ สิทธิอำนวย เตรียมนวดมือรอเซ็นชื่อบนประกาศนียบัตรมอบให้นักศึกษาที่ร่วมโครงการ เพราะแว่วๆ ว่ายังมีสถาบันอื่นจ่อคิวให้ไปจัดอีกเพียบ!!!