“นี่คือการกระทำที่ ไร้ยางอาย ที่พร้อมทำลายเสียงของประชาชนเพื่อประโยชน์ส่วนตน นี่คือการแสวงหาความมั่นคงในสภาโดยไม่สนใจเจตนาของประชาชน”
ประโยคนี้ปรากฏในหน้าเฟซบุกของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นวรรคทองในโพสต์จากที่เขียนร่ายยาวกลางดึกวันที่ 24 ก.พ. 63 หลังรู้ข่าวว่ามี ส.ส. อดีตลูกพรรคอนาคตใหม่อย่างน้อย 9 คน ปันใจย้ายขั้วไปร่วมงานกับฝั่งรัฐบาล และแนวโน้มสูงที่อาจจะเป็น “ภูมิใจไทย”
เรื่องของเรื่องมาจาก 14 ส.ส. อดีตลูกพรรคพรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ออกมาแถลงข่าวพร้อมเปิดคลิปเสียง ซึ่งอ้างว่าเป็นสนทนาทางโทรศัพท์ของน.ส.เบญจา กับบุคคลที่อ้างว่า เป็น ส.ส.ฝั่งรัฐบาล ใช้เวลาในการสนทนากันกว่า 3 นาที โดยมีการเสนอให้คนละ 23 ล้าน เพื่อแลกกับการย้ายขั้วไปอยู่ฝั่งรัฐบาล
ส.ส.เบญจา แสงจันทร์ ยอมรับว่าตัวเธอเองเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกทาบทาม โดยใช้พื้นที่อาคารรัฐสภาที่มีการติดต่อกันอย่างชัดเจนโดยไม่เกรงใจใคร พร้อมเสนอตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ พร้อมยืนยันว่า “ไม่ว่าจะจ่ายให้เรากี่ล้าน ก็ซื้ออุดมการณ์ของเราไม่ได้”
ซึ่งเรื่องนี้อาจจะมีส่วนที่บังเอิญกับรายงานข่าวจากพรรคภูมิใจ ระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ได้มี ส.ส.อดีตลูกพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 9 ที่จำเป็นต้องหาสังกัดพรรคใหม่ภายใน 60 วัน เดินทางไปที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อกรอกใบสมัครเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย
และแค่นั้นยังไม่พอ รายงานข่าวระบุอีกว่า น่าจะมีส.ส.จากอนาคตใหม่อีกอย่างน้อย 6 คน ที่มองหาพรรคใหม่สังกัดให้ทันเวลา อาจจะซบย้ายภูมิใจไทย รวมแล้วก็อาจจะเป็น 15 คน ที่จะย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย
จะทำให้ ส.ส.ที่เคยสังกัดพรรคอนาคตใหม่ จากจำนวน 65 คน จะเหลือไม่ถึง 40 คน ที่จะย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ ที่นายธนาธร ผลักดันให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ แต่ก็อาจจะยังไม่จบเพียงแค่ 9 หรือ 15 คนเท่านั้น ที่เตรียมจะย้ายขั้ว ซึ่งอีกไม่นานจะชัดเจนเห็นเป็นรายคน ทั้งการยกมือโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ และโดยเงื่อนไข ส.ส.ที่ย้ายสังกัดใหม่ต้องจะได้รับการรับรองจาก กกต.เพื่อแจ้งให้ที่ประชุมสภาฯ รับทราบก่อนปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 ก.พ.นี้
และกระแสข่าวย้ายขั้วที่ยังไม่มีการยืนยัน กลับปรากฏภาพชัดเมื่อช่วงค่ำ 19.30 น. วันที่ 24 ก.พ. ในระหว่างที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ตัดภาพไปที่เก้าอี้นั่งของส.ส.ฝั่งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทย ปรากฏว่า มีส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 9 คน ไปนั่งอยู่ รวมทั้งบางคนยังไปร่วมรับประทานอาหารกับพรรคภูมิใจไทย แต่ทว่าส.ส.จากอนาคตใหม่ทุกคนเลี่ยงการแสดงตนด้วยการติดบัตรที่หน้าอก แต่ได้ “คว่ำบัตร” ปิดชื่อของตัวเองไว้
ซึ่ง 9 ส.ส.อนาคตใหม่ ประกอบด้วย 1.นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส.กทม. เขต 23 2.ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม เขต10 3.นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. เขต 21 4.นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 5.นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 6.นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 7.นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 8.นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ 9.นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ทั้งหลายทั้งมวลของคนที่แสดงอาการหัวร้อนไม่แพ้นายธนาธร ก็เห็นจะเป็น “นายปิยบุตร แสงกนกกุล” อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่ออกอาการปรี๊ดแตกตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ. ที่ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ให้สัมภาษณ์สื่ออีกรอบ และข้ามวันตื่นเช้ามาวันที่ 25 ก.พ. ก็ยังไม่หยุดทวิตข้อความหลายข้อความระบุว่า
“ผมเป็น สส สมัยแรก เจอนักการเมืองอาวุโสรุ่นพี่ ก็ยกมือไหว้ทักทายให้เกียรติกัน ทั้ง พี่หนู อนุทิน พี่ศักดิ์สยาม พี่สรอรรถ พี่ชาดา พี่บุญลือ สัปดาห์ที่แล้ว หลายคนจาก ภท ก็ให้กำลังใจผมเต็มไปหมด แต่สุดท้าย ก็ “ดูด” สส อนค ไป ช่วยกันถามหน่อยครับว่าเก่งมาจากไหนได้ไปทีเดียว 9 คน
เราจะปล่อยให้การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เพื่อดึง ส.ส.กลายเป็นเรื่องปกติอย่างนั้นหรือ นักการเมืองรู้ สื่อรู้ ประชาชนรู้ แต่ทำไมเราทำอะไรไม่ได้ นี่หรือคือผลลัพธ์ของการปฏิรูป 5 ปีที่ผ่านมา อนค ตั้งใจทำการเมืองโปร่งใส แต่ถูกยุบ สุดท้ายประเทศไทยต้องการพรรค “ดูด” ส.ส. แบบนี้หรือ.