การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ทำให้คนทั้งโลกมีแต่ความทุกข์ เผชิญชีวิตประจำวันด้วยความยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างตื่นผวากับโรคใหม่ที่ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะหยุดการแพร่ระบาดได้เมื่อใด และจากแรงส่งนี้ทำให้อุตสาหกรรมหลายกลุ่มจากภาคการผลิตต้องหยุดผลิตชั่วคราว แรงงานอีกจำนวนมากได้รับผลกระทบ แม้ว่าตามแผนระยะสั้นนายจ้างยังจ่ายเงินเดือน และแรงงาน บางส่วนที่ถูกเลิกจ้างยังมีมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลเยียวยา เป็นห่วงระยะยาวหากถ้ายังไม่สามารถควบคุมได้ ก็ยังไม่รู้ชะตากรรมแรงงานจำนวนมากและประชาชนมนุษย์เงินเดือนจะใช้ชีวิตอย่างไร
ขณะเดียวกันเมื่อมี “วิกฤติ” ก็มักจะมี “โอกาส” ตามมาด้วยเสมอ เมื่อพบว่าหลายอุตสาหกรรมยังขับเคลื่อนต่อไปได้ โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มบางประเภท อุปกรณ์ทางการแพทย์ สินค้าจำเป็นที่ซื้อขายผ่านออนไลน์ และสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น
และที่น่าจับตาการผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางชนิดได้รับเสียงตอบรับดีอย่างคาดไม่ถึง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นกำลังถูกจับตามองว่ามันกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญและอาจสะเทือนได้....เพราะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่
สินค้าที่ว่าคือการผลิตหน่วยเก็บความจำ ที่เรียกว่า ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (Hard Disk Drive : HDD) จานแม่เหล็กหัวอ่าน ที่กำลังถูกพัฒนามาเป็น Solid State Drive หรือ SSD ที่มีความทันสมัย ประหยัดไฟ คล่องตัว และสะดวกในการใช้งานมากกว่า
แต่เชื่อหรือไม่ท่ามกลางวิกฤติโควิด ทำให้ HDD กลับมาเป็นที่นิยมมากขึ้น ผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกอย่างบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์เปอเรชั่น หรือ WD สัญชาติอเมริกัน ที่ประกาศตัวยึดไทยเป็นฐานการผลิต 100% ก่อนหน้านี้ ต้องถึงกับร้องไชโย!!! ในท่ามกลางวิกฤติโควิด-19
หลังจากนโยบาย “work from home” หรือ “ทำงานจากที่บ้าน” รวมถึงทางการแพทย์ล้วนต้องเก็บข้อมูลไว้ใน data storage และ HDD ก็เป็น storage ในการเก็บข้อมูลในรูปของดิจิตอล อินฟอร์เมชั่น ทั้งหมด โดยเฉพาะการเก็บบันทึกข้อมูลการประชุม และข้อมูลทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นมากในขณะนี้ ทำให้ตลาดส่งออก HDD ไปสู่ จีน อเมริกา ยุโรป ได้รับความนิยมมากขึ้น เป็นการตอบโจทย์ว่าในภาวะวิกฤติโควิด-19 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดและตอบโจทย์ทั้งทางการแพทย์และทางเทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่มีความต้องการสูงขึ้นในขณะนี้
ดูจากผลดำเนินงานช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ยักษ์ WD เพิ่งสรุปยอดส่งออกประจำไตรมาสเมื่อเทียบกันระหว่างปีต่อปี ไตรมาสแรกเดือนมกราคมถึงมีนาคม ปี 2563 ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 13% และประมาณการว่ายอดส่งออกในไตรมาสที่ 2 ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10% ทำให้ WD มียอดส่งออกต่อไตรมาสราว 50,000 ล้านบาท
งานนี้ต้องบอกว่า ไม่เสียแรงที่ตัดสินใจยึดไทย เป็น “ฮับฮาร์ดดิสก์โลก” โดยการปิดโรงงานผลิต HDD ที่กัวลาลัมเปอร์ ย้ายไลน์ผลิตทั้งหมดในส่วน HDD มายังประเทศไทยเมื่อปลายปี 2562 เพื่อรวมเป็นฐานการผลิตเดียวกัน ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จากปัจจุบัน มีโรงงานผลิตอยู่ที่บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี และที่ จ.ปราจีนบุรี ทำให้ไทยกลายเป็นฐานการผลิต HDD ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีแรงงานเป็นกองกำลังสำคัญราว 27,000 คน
ปัจจุบันผู้ผลิต 3 รายใหญ่ในตลาดโลก คือ WD, ซีเกท และโตชิบา ในจำนวนนี้แบ่งเป็นสัดส่วนตลาดของ WD จำนวน 44% ผลิตในไทย 100% ซีเกทมีสัดส่วนตลาด 39% มีฐานผลิตในไทยและจีน และที่เหลือเป็นสัดส่วนของโตชิบา 17% ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่จีน
การขยับตัวของบางอุตสาหกรรมในยามวิกฤติแบบนี้.....ก็ยังมีมุมดีๆที่ยังแฝงไปด้วย ‘โอกาส’เสมอ
หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3565 วันที่ 12-15 เมษายน 2563